รายงานของ กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น หรือ JMA ระบุว่า เกิดเหตุ แผ่นดินไหว ครั้งแรกขนาด 5.1 แมกนิจูดเมื่อเวลา 00.35 น.ของวันที่ 11 ส.ค.ตามเวลาท้องถิ่นญี่ปุ่น หรือตรงกับเวลา 22.35 น.ของวันที่ 10 ส.ค.ตามเวลาไทย
ส่วนเหตุ แผ่นดินไหวครั้งที่ 2 แรงขึ้น คือมีขนาด 5.3 แมกนิจูด และเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.53 น.ของวันที่ 11 ส.ค.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 22.53 น.ของวันที่ 10 ส.ค.ตามเวลาไทย โดยมีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ระดับความลึกราว 10 กิโลเมตรเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ไม่มีการเตือนภัยสึนามิ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้านสถาบันวิจัยแห่งชาติว่าด้วยวิทยาศาสตร์โลกและการรับมือภัยพิบัติของญี่ปุ่น หรือ NIED เปิดเผยว่า จุดศูนย์การแผ่นดินไหวรอบแรก 5.1 แมกนิจูดนั้น อยู่ที่เขตโซยะ (Soya) ของเกาะฮอกไกโด ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น และเกิดขึ้นใต้ดินในระดับตื้นมากคือเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลกที่เรียกว่า วงแหวนแห่งไฟ (Ring of fire) ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง ในเดือนมี.ค.2011 (พ.ศ.2554) เกิดแผ่นดินไหวที่เมืองฟุกุชิมะ ถือเป็นครั้งหนึ่งของการเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดของญี่ปุ่นในรอบหลายทศวรรษ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 18,000 รายทั้งจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นตามมา และยังทำให้เกิดการรั่วไหลของกัมมันตรังสีจากโรงผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในพื้นที่ ซึ่งได้รับการบันทึกไว้ว่าเป็นเหตุกัมมันตรังสีรั่วไหลที่ “เลวร้ายที่สุด” นับตั้งแต่เหตุการณ์อุบัติภัยโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลระเบิดในยูเครนในปี 1986