สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงข้อมูลที่เปิดเผยโดยนายแอนดี้ วิดจาจันโต อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการของ ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ผู้นำ อินโดนีเซีย ระบุว่า เขาได้รับทราบจากปธน.วิโดโดว่า ผู้นำ จีน และ รัสเซีย ต่างวางแผนจะเข้าร่วม ประชุมซัมมิต G-20 ที่ บาหลี
ทั้งนี้ ปธน.วิโดโด ยังได้ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ผู้นำจีนและผู้นำรัสเซียได้ให้คำมั่นในประเด็นนี้ ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีอินโดนีเซียยังไม่ได้ให้ความเห็นเพื่อยืนยันรายงานดังกล่าวอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศจีน ก็ยังไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้เช่นกันเมื่อรอยเตอร์สอบถามในช่วงเวลาที่รายงานข่าวดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ทางทำเนียบรัฐบาลเครมลินปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับบลูมเบิร์กในประเด็นที่ว่าผู้นำทั้งสองจะพบกันที่บาหลีในเวที G-20 หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของรัฐบาลเครมลิน ให้ข้อมูลกับบลูมเบิร์กว่า ปธน.ปูตินมีแผนจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง นี่จะถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2020 เมื่อครั้งที่ผู้นำจีนเดินทางเยือนประเทศเมียนมา และเป็นที่คาดหมายว่าปธน.สี จะรักษาเก้าอี้ผู้นำสมัยสามในการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ก่อนที่จะมีการประชุมซัมมิต G-20 ปลายปีนี้
ด้าน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา มีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า จะเข้าร่วมประชุมสุดยอด G-20 เช่นกัน แต่ทางทำเนียบขาวไม่ได้ยืนยันว่าปธน.ไบเดนจะพบกับปธน.สี หรือไม่ โดยวอลล์สตรีทเจอร์นัล สื่อใหญ่ของสหรัฐ รายงานว่า ทางการจีนได้เตรียมแผนการพบกันระหว่างปธน.ไบเดน และปธน.สี ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งก็ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นประเทศใดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โฆษกคณะทำงานฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ย้ำว่าปธน.ไบเดนไม่คิดว่าปธน.ปูติน ควรเข้าร่วมประชุมสุดยอด G-20 ในขณะที่ผู้นำรัสเซียกำลังทำสงครามกับยูเครน แต่ถ้าหากปธน.ปูตินไปร่วมการประชุม G-20 ที่บาหลีจริง ๆ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ซึ่งได้รับการเทียบเชิญจากอินโดนีเซีย ก็ควรจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดนี้ด้วยเช่นกัน
ก่อนเวทีประชุม G-20 อินโดนีเซียเจอกระแสกดดันจากชาติตะวันตกให้อินโดนีเซียถอนคำเชิญปธน.ปูติน หลังจากที่รัสเซียส่งกองทัพรุกรานยูเครน ขณะที่ปธน.วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ก็กำลังวางบทบาทเป็นตัวกลางระหว่างประเทศคู่บาดหมาง โดยในช่วงหลายเดือนมานี้ ปธน.วิโดโดได้เดินทางไปพบปะหารือกับปธน.ยูเครนและรัสเซียเพื่อเรียกร้องให้ยุติสงครามระหว่างกัน และหาหนทางในการลดภาวะวิกฤตด้านอาหารโลก และในสัปดาห์นี้ ผู้นำอินโดนีเซียยังกล่าวด้วยว่าทั้งสองประเทศยอมรับอินโดนีเซียในฐานะ “สะพานเชื่อมสันติภาพ”