นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าววานนี้ (5 ก.ย.) ระบุว่า รัสเซีย จะระงับการจัดส่งก๊าซผ่าน ท่อ "นอร์ด สตรีม 1" ให้กับ ยุโรป ไปจนกว่าชาติตะวันตกจะยกเลิก มาตรการคว่ำบาตร ที่บังคับใช้กับรัสเซียและบริษัทรัสเซีย
ท่าทีล่าสุดของรัสเซียครั้งนี้ ได้เพิ่มความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกเป็นอย่างมาก หลังจากราคาพลังงานในภูมิภาคยุโรปพุ่งสูงขึ้น และ เป็นการตอกย้ำว่า รัสเซียกำลังใช้เครื่องมือด้านพลังงานเป็นกลไกต่อรองและสร้างแรงกดดันให้กับยุโรป
สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของทางการรัสเซียเปิดเผยถ้อยแถลงของนายเปสคอฟว่า มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาด้านการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ จนทำให้ต้องปิดท่อส่งก๊าซตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนอร์ดสตรีม 1 เป็นท่อส่งก๊าซหลักที่เชื่อมระหว่างรัสเซียและยุโรปตะวันตก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารัสเซียจะกลับมาจัดส่งก๊าซให้ยุโรปดังเดิมหรือไม่ หากตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย นายเปสคอฟตอบว่า "แน่นอน" พร้อมกล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้นก่อให้เกิดสถานการณ์ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
นายเปสคอฟกล่าวว่า การระงับจัดส่งก๊าซในปัจจุบันเกิดจากความบกพร่องของหน่วยปฏิบัติการแห่งสุดท้ายของท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 ขณะที่หน่วยปฏิบัติการที่เหลือถูกระงับการดำเนินไปก่อนหน้านี้ เพราะปัญหาเรื่องการซ่อมบำรุง
ก่อนหน้านี้ รัสเซียอ้างว่าปัญหาเรื่องการจัดส่งก๊าซให้ยุโรปนั้นเกิดจากความล่าช้าในการส่งคืนใบพัดสูบก๊าซที่มีการซ่อมแซมในแคนาดา โดยการส่งมอบชิ้นส่วนดังกล่าวมีความล่าช้า เพราะมาตรการคว่ำบาตรของนานาประเทศ
หนังสือพิมพ์คอมเมอร์แซนต์ (Kommersant) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจของรัสเซียรายงานอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า รัสเซียจะไม่กลับมาจัดส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ดสตรีม 1 ให้กับยุโรปในอนาคตอันใกล้นี้แน่ๆ
รายงานข่าวระบุว่า ก่อนเกิดเหตุรัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ก๊าซจากรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของการนำเข้าก๊าซทั้งหมดของยุโรป
ทั้งนี้ การประกาศระงับการส่งก๊าซธรรมชาติผ่านท่อ "นอร์ดสตรีม 1" ไปยังเยอรมนีอย่างไม่มีกำหนดและการลดระดับการส่งก๊าซผ่านท่ออื่นๆมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาก๊าซในตลาดยุโรปเพิ่มขึ้นจากเดิม 30% เมื่อวันจันทร์ (5 ก.ย.) แตะระดับ 272 ยูโรต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง ทั้งยังทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนตัวต่ำสุดในรอบ 20 ปี มาอยู่ที่ 1 ยูโรต่อ 0.98 ดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กประเมินว่า ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่พุ่งสูงไม่หยุด จะทำให้อุตสาหกรรมด้านการผลิตของอังกฤษได้รับผลกระทบอย่างหนักในรอบ 50 ปี ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ เนื่องจากมาตรการควบคุมเพดานค่าไฟของรัฐ จะมุ่งเน้นการช่วยเหลือภาคครัวเรือนเท่านั้น
ด้านนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวเรียกความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า ประเทศเยอรมนีจะมีพลังงานใช้เพียงพอและจะไม่เกิดกรณีไฟฟ้าขาดแคลนในช่วงฤดูหนาวตามที่พรรคฝ่ายค้านแสดงความกังวลใจ