พระราชสาส์น ของ “กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3” (King Charles the III)ที่เผยแพร่โดย สำนักพระราชวังบักกิงแฮม มีเนื้อหาดังนี้
“การสิ้นพระชนม์ของพระมารดาอันเป็นที่รักของข้าพเจ้า นับเป็นช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับข้าพเจ้าและสมาชิกทุกคนในครอบครัวของข้าพเจ้า
เราต่างอาลัยอย่างที่สุดต่อการจากไปของกษัตริย์และพระราชมารดาผู้เป็นที่รักยิ่ง ข้าพเจ้ารู้ว่าการสูญเสียพระองค์ไป จะนำมาซึ่งความเศร้าอย่างสุดซึ้งไปทั่วประเทศ ทั้งเครือจักรภพ และผู้คนจำนวนเหลือคณานับทั่วโลก
ในช่วงเวลาแห่งการไว้ทุกข์และการเปลี่ยนแปลงนี้ ข้าพเจ้าและครอบครัวจะข้ามผ่านความทุกข์นี้ด้วยความรู้สึกว่า สมเด็จพระราชินีทรงได้รับความความรักอันลึกซึ้งและความเคารพอย่างกว้างขวางเช่นนี้”
สื่อต่างประเทศรายงานว่า เริ่มจากวันแรกของ การเสด็จสวรรคต ของ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 องค์รัชทายาทลำดับที่ 1 ซึ่งก็คือ มกุฎราชกุมาร เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ "เจ้าชายแห่งเวลส์" ทรงขึ้นครองราชย์แทนพระราชมารดา และทรงมีพระนามใหม่ว่า กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 (King Charles the III) ในวันนี้พระองค์จะทรงหารือกับนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และออกแถลงการณ์ที่เป็นลายลักษณ์อักษร รวมทั้งบันทึกคำปราศรัยเผยแพร่ผ่านรายการโทรทัศน์ ซึ่งจะออกอากาศในวันศุกร์นี้ (9 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น
จากนั้น จะมีการลั่นระฆังของวิหารเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ (Westminster Abbey) และเกรท ทอม(Great Tom) รวมถึงระฆังของมหาวิหารเซนต์พอลในกรุงลอนดอนในช่วงเที่ยงวันเป็นเวลา 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ จะมีการยิงสลุต ที่ปราสาทเอดินบะระของสกอตแลนด์ และไฮด์ พาร์ค (Hyde Park)ในกรุงลอนดอนทุกๆ 10 วินาทีจำนวน 96 ครั้ง ซึ่งเท่ากับพระชนม์ชีพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
ทั่วทั้งสหราชอาณาจักรจะอยู่ในช่วงเวลาของการไว้ทุกข์ต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 รัฐบาลอังกฤษประกาศลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 10 วัน