สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น รายงานวานนี้ (18 ก.ย.) ว่า พายุไต้ฝุ่นหมายเลข 14 ที่มีชื่อว่า “นันมาดอล”(Nanmadol) กำลังเคลื่อนตัวไปทางเหนือของ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากขึ้นฝั่งที่เกาะคิวชู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ โดยพายุกำลังแรงดังกล่าวได้ทำให้เกิดลมแรงและฝนตกหนักที่เมืองคาโกชิมะ (Kagoshima) บนเกาะคิวชู
ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ออกคำเตือนในระดับสูงสุด ให้ประชาชนระวังการเผชิญกับคลื่นลมแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นอกจากนี้ ทางการยังสั่งระงับบริการรถไฟและยกเลิกหลายเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัย
รายงานข่าวระบุว่า พายุไต้ฝุ่นลูกนี้ เคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงสุด 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะพัดเข้าสู่เขตมหานครโตเกียวในวันอังคาร (20 ก.ย.)
สำนักงานอุตุฯ ของญี่ปุ่น ได้ออกคำเตือนพิเศษสำหรับจังหวัดคาโกชิมะตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ (17 ก.ย.) ระบุว่าบางพื้นที่ในเกาะคิวชู, เกาะชิโกกุ และภูมิภาคชูโงกุ ทางตะวันตกของประเทศ อาจอยู่ในบริเวณพายุฝนฟ้าคะนองไปจนถึงเช้าวันจันทร์ (19 ก.ย.) นับเป็นครั้งแรกที่มีการออกคำเตือนพายุไต้ฝุ่นพิเศษในพื้นที่นอกจังหวัดโอกินาวา
แม้ว่าไต้ฝุ่นนันมาดอล ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 14 ของฤดูกาล จะอ่อนกำลังลงเล็กน้อยเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันอาทิตย์ (18 ก.ย.) แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดลมกระโชกแรงสูงสุดที่ประมาณ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีการบันทึกว่า พบความเร็วลมสูงสุดที่ 183.24 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในจังหวัดยากูชิมะ และจังหวัดคาโกชิมะ
นอกจากนี้ ยังมีการพยากรณ์ว่า ภาวะฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วม ระดับ 50 เซนติเมตร ในช่วงเย็นวันจันทร์ (19 ก.ย.) และมีคำเตือนเกี่ยวกับแผ่นดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน ทำให้มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นลูกนี้แล้ว
โดยที่เมืองคาโกชิมะ ประชาชนมากกว่า 12,000 คนได้อพยพเข้าไปพักชั่วคราวที่ศูนย์อพยพ ขณะที่บางส่วนซึ่งยังไม่ละทิ้งบ้านเรือน ทางการได้ออกคำเตือนว่าเนื่องจากพายุแรงและคลื่นสูง ขอให้ประชาชนเก็บตัวอยู่ในอาคารที่มั่นคงแข็งแรง และควรขึ้นไปอยู่บนชั้นสองของอาคารหรือสูงกว่านั้น ส่วนที่จังหวัดมิยาซากิ ซึ่งอยู่ใกล้เคียง มีการอพยพประชาชนแล้วราว 8,000 คน
ในเบื้องต้นมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า กระแสลมแรงทำให้กระจกอาคารบางแห่งแตกกระจายและมีประชาชนบาดเจ็บเนื่องจากถูกกระจกบาด สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 15 คน
ส่วนกรณีไฟฟ้าดับที่เกิดขึ้นทั่วภูมิภาคคิวชู สาเหตุเกิดจากพายุได้สร้างความเสียหายให้กับเสาไฟและระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้า บริษัท คิวชู อิเล็กทริค พาวเวอร์ รายงานว่า ช่วงคืนวันอาทิตย์ (18 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น) มีราว 216,450 ครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้
ด้านสายการบินแจแปน แอร์ไลน์ส และออล นิปปอน แอร์เวย์ส เปิดเผยว่าเที่ยวบินภายในประเทศหลายร้อยเที่ยวบินถูกยกเลิกในวันอาทิตย์ และคาดว่าจะมีการยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอีกจนถึงวันอังคารนี้ (20 ก.ย.) หลังจากที่พายุได้เริ่มมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
นายฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เรียกร้องให้ประชาชนอพยพโดยทันทีหาก "รู้สึกถึงอันตรายแม้เพียงเล็กน้อย" พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ในที่ประชุม "ดำเนินมาตรการที่เป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนด้วยความเร่งด่วน"
ทั้งนี้ จังหวัดฟุกุโอกะ, คุมาโมโตะ, มิยาซากิ และนางาซากิ ต่างก็ทำตามแนวทางของจังหวัดคาโกชิมะ โดยใช้กฎหมายบรรเทาสาธารณภัยในทุกเขตเทศบาล เพื่อเปิดรับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลาง