สื่อต่างประเทศรายงานว่า ได้เกิดเหตุ แผ่นดินไหว แบบ อาฟเตอร์ช็อก อีกราว 50 ครั้งที่เกาะไต้หวัน วันนี้ (19 ก.ย.) โดยครั้งใหญ่สุดมีความแรงถึง 5.5 แมกนิจูด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวความลึกราว 13 กิโลเมตร หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.ย.) ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.6-6.8 แมกนิจูด สร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนจำนวนมากไปแล้ว โดยล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย บาดเจ็บอย่างน้อย 150 ราย
สำหรับวันนี้ แผ่นดินไหวอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาในท้องถิ่น ความสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงกรุงไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน หน่วยกู้ภัยได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย 4 คนที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารออกมาได้ และกำลังเร่งค้นหาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อาจจะยังคงติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ทั้งนี้ อาฟเตอร์ช็อกที่แรงที่สุด ตรวจวัดความแรงได้ถึง 5.5 แมกนิจูด สื่อรายงานว่า ไต้หวันต้องเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวบ่อยครั้งเพราะเกาะนี้ตั้งอยู่ใกล้รอยแยกของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มักจะเกิดความเสียหายไม่รุนแรงมากนัก ยกตัวอย่างเช่นในปี 2018 (พ.ศ.2561) จุดท่องเที่ยวชื่อดังอย่างเมืองฮัวเหลียน ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดความแรง 6.4 แมกนิจูด ทำให้มีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นถึง 17 ราย บาดเจ็บเกือบ 300 ราย
ย้อนไปในเดือนกันยายนปี 1999 เกิดเหตุแผ่นดินไหวความรุนแรงถึง 7.6 แมกนิจูด ครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิตราว 2,400 ราย นับเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของไต้หวัน
สำหรับแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่เริ่มเมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.ย.) เหตุเกิดนอกชายฝั่งตะวันออก ของไต้หวัน เมื่อเวลาราว 21.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเท่ากับเวลาประมาณ 20.30 น.ตามเวลาไทย บริเวณห่างจากชายฝั่งทางเหนือของเมืองไถตงประมาณ 50 กิโลเมตร ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร จุดศูนย์กลางอยู่ที่ตำบลกวนซาน ห่างจากที่ทำการเมืองไถตง ไปทางทิศเหนือ 35.8 กม. เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีกหลายระลอก
ไม่เพียงที่ไต้หวันเท่านั้น สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (17 ก.ย.) ยังเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติในประเทศเนปาลด้วยเช่นกัน โดยหลังฝนตกหนักต่อเนื่องได้เกิดดินถล่มเป็นบริเวณกว้างในเขตอัชชัม ทางภาคตะวันตกของประเทศ พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 7 คน ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งขุดค้นซากปรักหักพังของบ้านเรือน 5 หลังที่ถูกดินโคลนถล่มทับและเร่งค้นหาผู้ประสบภัยที่ยังสูญหายอีกจำนวนมาก