ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ภูฏานเปิดพรมแดนต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว โดยเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวสูงถึง 200 ดอลลาร์ต่อคืน ปัจจุบันภูฏานเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัยระหว่างจีนกับอินเดียและมีประชากรไม่ถึง 800,000 คน ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักเดินทางหลายคนใฝ่ฝัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ภูฏานได้เพิ่มค่าธรรมเนียมการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากเดิม 65 ดอลลาร์ต่อคืนเป็น 200 ดอลลาร์ต่อคืน อันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของรัฐบาลภูฎานที่ต้องการมุ่งความสนใจไปยังด้านความยั่งยืน เพื่อผลักดันการท่องเที่ยว “มูลค่าสูง แต่ปริมาณต่ำ”
ทั้งนี้ภูฏานหลีกเลี่ยงการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยมุ่งเน้นปริมาณนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด โดยภูฏานได้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเข้าประเทศจนกระทั่งปี 2517 ก่อนจะกลับมาปิดพรมแดนอีกครั้งในปี 2563 เพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
อย่างไรก็ตามหลังจากที่โรคระบาดทำให้ภาคการท่องเที่ยวทรุดตัวลงอย่างหนัก ขณะนี้หลายประเทศต่างเร่งออกมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเมืองเวนิสของอิตาลีตัดสินใจเลื่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าเมือง 10 ยูโร (9.80 ดอลลาร์) จนถึงปีหน้า เช่นเดียวกับไทยที่ตัดสินใจเลื่อนเก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศ 300 บาท