"โนรู" ขึ้นฝั่งเมืองฮอยอันแล้ว เวียดนามเคอร์ฟิว-สั่งอพยพผู้คนหลายแสน

สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของ เวียดนาม รายงานวันนี้ (28 ก.ย.) ว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งซึ่งเป็นเส้นทางผ่านของ พายุโนรู (Noru)ได้รับคำสั่งให้อพยพไปยังสถานที่หลบภัย ทางการ ประกาศเคอร์ฟิว ขณะที่โรงเรียนและบริษัทห้างร้านมากมายในหลายจังหวัดปิดทำการ รวมทั้งมีการยกเลิกกิจกรรมสาธารณะต่างๆด้วย

ก่อนหน้านี้ ทางการเวียดนามเรียกร้องให้ประชาชน 400,000 คน อพยพออกจากที่อยู่อาศัยที่อาจไม่ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างฮอยอัน และต่อมามีคำสั่งให้อพยพประชาชนเพิ่ม รวมแล้วเป็นจำนวนมากกว่า 800,000 คน

ทั้งนี้ มีการประกาศเคอร์ฟิวในจังหวัดดานัง และกว๋างนาม ตั้งแต่คืนวานนี้ (27 ก.ย.) โดยห้ามประชาชนออกจากเคหสถาน ยกเว้นต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ

วันเดียวกันสำนักงานการบินเวียดนามได้สั่งปิดท่าอากาศยาน 9 แห่งทั่วประเทศ ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งในและระหว่างประเทศหลายร้อยเที่ยว นอกจากนี้ ยังระงับบริการรถไฟจนกว่าพายุโนรู จะเคลื่อนตัวออกจากเวียดนาม

นายฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวในการประชุมรับมือภัยพิบัติฉุกเฉินวานนี้ (27 ก.ย.) ว่า รัฐบาลเวียดนามยึดถือชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุด การอพยพจึงต้องรวดเร็ว ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทหารราว 270,000 นายเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดจากพายุลูกนี้

ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาเวียดนามแถลงวันนี้ (28 ก.ย.)ว่า พายุโนรูขึ้นฝั่งทางเมืองชายฝั่งตอนกลางของประเทศซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองประวัติศาสตร์ฮอยอัน และเมืองตากอากาศดานังช่วงเช้ามืดวันนี้ ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ 117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่ภาพถ่ายที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์และสื่อทางการเห็นต้นไม้ล้มและดินถล่มกีดขวางถนน

เว็บไซต์วีเอ็นเอ็กซ์เพรสส์ของเวียดนามรายงานว่า พายุได้อ่อนกำลังเหลือ 117 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในช่วง 3 ชั่วโมงก่อนขึ้นฝั่งเมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น น่าจะทำให้มีฝนตกหนักในอีกหลายชั่วโมง และมีคำเตือนเรื่องน้ำท่วมดินถล่ม คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกด้วยความเร็ว 20-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชันในที่สุด

รองนายกรัฐมนตรีเล วัน ถั่นห์กล่าวในการประชุมกับชุมชนที่ได้รับผลกระทบช่วงเช้าวันนี้ว่า แม้พายุอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ประชาชนไม่ควรประมาท เพราะมีหลายกรณีแล้วที่คนจำนวนมากไม่ได้เสียชีวิตเพราะพายุ แต่เสียชีวิตเพราะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เขาเห็นด้วยกับข้อเสนอของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาเรื่องยังไม่ควรเปิดการเรียนการสอนในเวลานี้ และได้สั่งการให้ทางการท้องถิ่นเฝ้าติดตามสถานการณ์พายุและน้ำท่วม รวมทั้งยังไม่อนุญาตให้ชาวประมงออกทะเลด้วย