คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จะจัดประชุมในวันศุกร์นี้ (30 ก.ย.) ตามคำเรียกร้องของ รัสเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับความเสียหายของ ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม (Nord Stream) ของรัสเซียทั้งสองท่อซึ่งใช้ส่งก๊าซไปยังยุโรป และเป็นเหตุให้ ก๊าซรั่วไหลสู่ทะเลบอลติก
คณะทำงานของฝรั่งเศสประจำสหประชาชาติ (UN) ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของ UNSC ที่ประกอบด้วยสมาชิก 15 ประเทศระบุว่า การประชุมในวันศุกร์นี้ (30 ก.ย.) จะหารือเกี่ยวกับท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมซึ่งรัสเซียและประเทศหุ้นส่วนในยุโรปได้ใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ในการก่อสร้าง
สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า การรั่วไหลของก๊าซซึ่งคาดว่าเกิดจากการก่อวินาศกรรมท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมทั้งสองท่อเมื่อวันอังคาร (27 ก.ย.) นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดพลังงาน และเพิ่มความวิตกด้านความปลอดภัย
ทั้งนี้ เหตุระเบิดได้สร้างความเสียหายต่อท่อส่งก๊าซใต้ทะเลเมื่อวันอังคาร (27 ก.ย.) โดยท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นท่อส่งก๊าซหลักของรัสเซียไปยังเยอรมนีนั้นได้ปิดดำเนินการอยู่แล้ว แต่ก็จะไม่สามารถเปิดใช้งานได้โดยง่ายในขณะนี้
องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) และสหภาพยุโรป (EU) ได้เตือนถึงความจำเป็นในการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญจากการก่อวินาศกรรม แม้ไม่ได้ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฝีมือของใครก็ตาม
ด้านรัสเซียแถลงว่า การก่อวินาศกรรมนั้น "มีความเป็นไปได้" และระบุว่า การกล่าวหารัสเซียว่าทำให้เกิดความเสียหายนั้นเป็นเรื่องที่ไร้สาระ
ทั้งนี้ รัสเซียได้ลดการส่งมอบก๊าซให้กับยุโรปมาระยะหนึ่งแล้ว ภายหลังจากที่ชาติตะวันตกได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโทษฐานที่รุกรานยูเครน
รายงานระบุว่า ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 มีความยาว 1,222 กม. ถือเป็นเส้นทางสำคัญในการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังยุโรป ขณะที่ท่อนอร์ดสตรีม 2 ความยาว 1,234 กม. ยังไม่ได้เปิดใช้เพื่อการพาณิชย์
สำนักงานตำรวจแห่งชาติสวีเดน เปิดเผยว่า ได้เริ่มการสืบสวนการรั่วไหลครั้งนี้แล้วภายใต้ "ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น" ว่า อาจเกิดจากการก่อวินาศกรรมที่ท่อนอร์ดสตรีม 1 ขณะที่นายเมตต์ เฟรเดริกเซ่น นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก ระบุว่า มีจุดที่รั่ว 3 จุด ดังนั้นจึงยากที่จะเชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นอุบัติเหตุ
ผู้เชี่ยวชาญยุโรปอ้างมีหลักฐาน ท่อ"นอร์ดสตรีม"ก๊าซรั่วเกิดจากวินาศกรรม
นายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป เปิดเผยวานนี้ (28 ก.ย.) ว่า หลักฐานต่าง ๆ ล้วนชี้ให้เห็นว่าการเกิดฟองอากาศขนาดใหญ่กลางทะเลบอลติกในสัปดาห์นี้เกิดจาก "การกระทำโดยมีการวางแผนไว้ก่อน" เพื่อโจมตีท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม (Nord Stream) ทั้งสองแห่ง
โจเซฟ บอร์เรลล์ ระบุในแถลงการณ์ว่า "การกระทำใด ๆ ที่มีจุดประสงค์ทำลายโครงสร้างด้านพลังงานของยุโรปเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และต้องเผชิญการตอบโต้อย่างรุนแรง" ทั้งนี้ อียูจะสนับสนุนการสืบสวน ที่มีเป้าหมายไขความกระจ่างว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่และทำไม และจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน
ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งได้หารือเรื่องนี้กับนายเจ็ปเป คอฟ็อด รัฐมนตรีต่างประเทศเดนมาร์ก เมื่อต้นสัปดาห์ ยืนยันว่า สหรัฐจะให้ความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกับพันธมิตรและคู่ค้าในยุโรป เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในยุโรป
"กำลังมีการตรวจสอบฟองอากาศและการรั่วไหลนี้ โดยรายงานเบื้องต้นชี้ว่าอาจเป็นผลจากการโจมตีหรือการก่อวินาศกรรม" รัฐมนตรีบลิงเคนกล่าว และว่า หากมีการยืนยันว่าเป็นการโจมตีจริง ก็ไม่มีใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่า การรั่วไหลครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคพลังงานของยุโรปมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมายุโรปลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียและหันไปใช้พลังงานสะอาดแทนเป็นปริมาณมาก
ส่วนทางองค์กรสิ่งแวดล้อมต่างแสดงความกังวลว่า ก๊าซธรรมชาติที่รั่วไหลออกมาอาจส่งผลรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์น้ำในบริเวณนั้น
ด้านนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ทวีตข้อความว่า สหรัฐอเมริกา สนับสนุนความพยายามสืบสวนเหตุวินาศกรรมครั้งนี้อย่างเต็มที่
นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งให้ความเห็นว่า การรั่วไหลครั้งนี้คือการส่งสัญญาณว่า รัสเซียกำลังจะเปิดแนวรบด้านใหม่ คือสงครามพลังงานกับทางยุโรป ขณะที่นายมีไคโล โพโดลยัก ที่ปรึกษาของประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า การรั่วไหลของท่อก๊าซนอร์ดสตรีมเป็นผลมาจาก "การโจมตีของผู้ก่อการร้าย" และ "การกระทำที่ก้าวร้าว" ต่อสหภาพยุโรป
ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์ มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ที่เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ท่อนอร์ดสตรีม 2 จะถึงจุดจบ "หากรัสเซียบุกรุกยูเครน" ซึ่งสะท้อนว่า มีบางคนเชื่อว่าหากเป็นการวินาศกรรมจริงๆ ผู้อยู่เบื้องหลังอาจไม่ใช่รัสเซียก็เป็นได้