สำนักข่าววีโอเอ สื่อใหญ่ของสหรัฐ รายงานอ้างอิงนางคารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวถึงประเด็นการเข้าร่วมการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปค (APEC) ของผู้นำสหรัฐอเมริกา จากที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้มอบหมายให้รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส มาเข้าร่วมการประชุมเอเปค ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้แทน เนื่องจากปธน.ติดภารกิจของครอบครัวที่ต้องร่วมงานฉลองสมรสของหลานสาว
ทางโฆษกทำเนียบขาว ตอบคำถามผู้สื่อข่าววีโอเอเมื่อวันพุธ (19 ต.ค.) ว่า ณ เวลานี้ ยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนออกมา แต่สหรัฐยังมองว่า เวทีเอเปคนั้นมีความสำคัญ และว่าประธานาธิบดี (ไบเดน) ให้ความสำคัญต่อการประชุมนี้อย่างยิ่ง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สหรัฐจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปี 2023
นางคารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว ยังกล่าวย้ำด้วยว่า ถือเป็นเรื่องสำคัญของคณะทำงานทำเนียบขาว ในการทำหน้าที่เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งและพึ่งพาได้ของกลุ่มประเทศเอเปค และจะหาหนทางร่วมกันในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งร่วมกัน
และจากการสอบถามไปยัง สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ในวันนี้ (20 ต.ค.) "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รับคำตอบเพียงว่า สหรัฐยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการในเรื่องที่ว่าปธน.ไบเดน จะให้รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส มาร่วมประชุมเอเปคแทน
ขณะที่วานนี้ (19 ต.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้มีแถลงข่าวประจำสัปดาห์ โดยนายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงฯ เปิดเผย ความคืบหน้าเกี่ยวกับผู้นำที่จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ระบุว่า
ขณะนี้ มีการตอบรับเข้าร่วมของผู้นำเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว 6 เขตเศรษฐกิจ ประกอบด้วย
นอกนั้น มีการตอบรับเข้าร่วมด้วยวาจา 3 เขตเศรษฐกิจ มีการมอบผู้แทนเข้าร่วม 1-2 เขตเศรษฐกิจ ยังรอการยืนยัน 4 เขตเศรษฐกิจ ซึ่ง ณ จุดนี้ยังไม่สามารถบอกชื่อเขตเศรษฐกิจได้ อีกทั้งยังมีแขกพิเศษของประธาน 3 ประเทศ
ทั้งนี้ ไทยในฐานะเจ้าภาพจะมีการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ซึ่งจะมีการประกาศการเข้าร่วมของผู้นำเขตเศรษฐกิจต่างๆในโอกาสดังกล่าว
ข้อมูลอ้างอิง วีโอเอ