จีน จะยังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ต่อ การควบคุมโรคโควิด-19 ในปัจจุบันภายใต้ นโนบาย Zero Covid หรือ "โควิดต้องเป็นศูนย์" ท่ามกลางการแพร่ระบาดที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งทำลายความหวังที่ว่า จีนจะผ่อนคลายนโยบายที่เข้มงวดที่สุดซึ่งทำให้เมืองและโรงงานต่าง ๆ เผชิญกับการล็อกดาวน์อย่างยืดเยื้อยาวนาน
นายหู เซียง เจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) เปิดเผยในช่วงสุดสัปดาห์ว่า การปฏิบัติก่อนหน้านี้ได้พิสูจน์แล้วว่า แผนการป้องกันและควบคุมของจีนที่ดำเนินมา รวมถึงมาตรการเชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ นั้น ถูกต้องโดยสมบูรณ์ อีกทั้งนโยบายต่าง ๆ ยังคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า จีนจะยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero Policy) โดยโพสต์ทางออนไลน์ที่ไม่ได้รับการยืนยันเกี่ยวกับแนวโน้มที่จีนจะเปิดประเทศนั้นได้หนุนตลาดหุ้นต่าง ๆ ทะยานขึ้นมากที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาในรอบหลายปี ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนเตรียมยกเลิกระบบ "เซอร์กิต เบรกเกอร์" (Circuit Breaker) ที่จะระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศซึ่งมีการตรวจพบผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากที่สุดเข้าสู่จีน
นอกจากนี้ การประกาศของนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีที่ว่า จีนจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจีนสามารถเข้าถึงและฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทบิออนเทค (ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติเยอรมัน)ได้นั้น ได้กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า จีนกำลังเตรียมที่จะเปิดประเทศ
จีนสั่งล็อกดาวน์โรงงานผลิต iPhone ใหญ่สุดในโลก กระทบคนงาน 2 แสนรายเซ่นโควิด
แต่การออกมาเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ NHC เท่ากับเป็นการดับความฝันเกี่ยวกับการเปิดประเทศของจีนเป็นอย่างมาก โดยมีการตอกย้ำว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วประเทศทำให้จีนยังคงต้องยึดมั่นต่อนโยบายในปัจจุบันเป็นสำคัญ โดยจีนรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 3,500 รายในวันศุกร์ (4 พ.ย.) โดยการแพร่ระบาดได้ปะทุขึ้นในกวางตุ้ง มองโกเลียใน ฟูเจียน รวมทั้งในเมืองหลวงปักกิ่ง