10 สุดยอดความสำเร็จของจีน เหตุผลที่ สี จิ้นผิง ได้ต่อวาระ 3 (4)

นอกจากความสำเร็จในมิติความสูง ความเร็ว ขอบข่าย และ ความแม่นยำ แล้ว เราไปลุ้นต่อกันเลยว่า จีนคว้ารางวัลแห่งความสำเร็จในมิติด้านไหนอีกบ้าง ...

5. ความลึกของจีน (China Depth) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จีนได้เจริญรอยตามประเทศพัฒนาแล้ว ลงทุนทำหลายสิ่งใต้พื้นผิวโลกมากมาย ไล่ตั้งแต่การก่อสร้างห้องทดลองใต้ดินที่เมืองเหลียงซาน (Liangshan) ตั้งอยู่ราว 500 กิโลเมตรทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของนครเฉิงตู มณฑลเสฉวน 

ห้องแล็บนี้มีชื่อว่า “China Jinping Underground Laboratory” และถูกสร้างขึ้นในใจกลางของอุโมงค์เทือกเขาจินผิง (Jinping Mountain Tunnel) ลึกลงไปถึงราว 2,400 เมตร ซึ่งถือเป็นห้องแล็บที่ลึกที่สุดในโลกในปัจจุบัน

การที่ศูนย์วิจัยนี้อยู่ลึกลงไปใต้ขุนเขา ทำให้ได้รับการป้องกันจากรังสีคอสมิก (Cosmic Ray) โดยมีระดับความลึก 6,720 m.w.e. (Meter Water Equivalent ซึ่งเป็นหน่วยวัดระดับรังสีคอสมิกในห้องวิจัยใต้ดิน) ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับรังสีคอสมิกที่ต่ำที่สุดในโลก ทำให้เหมาะสำหรับการทำวิจัย “สารมืด” (Dark Matter) และ ดาราศาสตร์ฟิสิกส์อื่น  

ทีมนักวิจัยในโครงการด้านดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชิงฮวา (Tsinghua University) สถาบันการศึกษาชั้นนำในกรุงปักกิ่ง หรือที่หลายคนเปรียบว่าเป็น “เอ็มไอทีของจีน” ก็ได้เข้าไปใช้ประโยชน์จากแล็บดังกล่าว เพื่อค้นหาคำตอบในการไขปริศนาของจักรวาลอยู่ในปัจจุบัน

หลายคนอาจสงสัยว่า เมื่อห้องแล็บขนาดใหญ่ตั้งอยู่ลึกเช่นนี้แล้วเอาอากาศ น้ำ ไฟฟ้า และอาหารมาจากที่ไหนกัน ก็ขอบอกว่าอุโมงค์ที่ก่อสร้างขึ้นมีขนาดใหญ่มากพอที่รถยนต์วิ่งสวนกันได้ มีระบบการหมุนเวียนอากาศ และดึงไฟฟ้าและน้ำจากสถานีผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่งที่อ่าวต้าเหอแห่งจินผิง (Jinping Dahe Bay) ในพื้นที่ใกล้เคียง

ความลึกใต้ท้องทะเลก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง เมื่อเร็วๆ นี้ เราอาจได้ยินข่าวโครงการทำเหมืองแร่หายากใต้ทะเลของญี่ปุ่น แต่จีนก็ดำเนินโครงการสำรวจและวิจัยใต้ท้องทะเลลึกอยู่มากเช่นกัน  

ในปี 2020 เรือดำน้ำที่มีคนบังคับ “สไตร์ฟ” ได้ลงสำรวจ “ร่องลึกมาเรียนา” (Mariana Trench) ด้านซีกตะวันออกของหมู่เกาะมาเรียนาและฟิลิปปินส์ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นหุบเหวใต้ท้องทะเลที่ลึกสุดในโลก จนมีคนเปรียบเทียบว่าเป็น “ขั้วโลกที่ 4” ของโลก

ในการสำรวจในครั้งนั้น “สไตร์ฟ” ดำดิ่งลงไปสู่ระดับความลึกถึง 10,909 เมตร! ซึ่งเกือบแตะระดับความลึกที่สุดของร่องลึกดังกล่าว

                             
นอกจากนี้ ในปี 2021 จีนโดย China National Offshore Oil Corp (CNOOC) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของจีน ยังได้ติดตั้งแท่นสำรวจและขุดเจาะอัตโนมัติ “Deep Sea No. 1” ซึ่งตั้งอยู่ในราว 150 กิโลเมตรทางตอนใต้ของซานย่า (Sanya) เมืองตากอากาศยอดนิยมในมณฑลไฮ่หนาน ที่ระดับความลึกกว่า 1,500 เมตร!!!

แท่นสำรวจดังกล่าวถูกใช้ประโยชน์เพื่อการวิจัยสภาพบรรยากาศ และสำรวจและขุดเจาะก๊าซธรรมชาติจากท้องทะเลลึก ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงความรุดหน้าในด้านวิศวกรรมนอกชายฝั่งของจีนในยุคหลัง แต่โครงการก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อไปเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนโยบายพลังงานสะอาดของจีน

ในปี 2022 ปิโตรไชน่า (PetroChina) รัฐวิสาหกิจใหญ่ด้านพลังงานของจีน ก็ยังได้ก่อสร้างแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ “Deep Wells” ที่ระดับความลึกกว่า 9,000 เมตร ในย่านแอ่งทาริม (Tarim Basin) ในซินเจียง ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญต่างประเมินว่า พื้นที่ย่านนี้เป็นแหล่งสำรองน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 

อีกตัวอย่างหนึ่งของที่สุดแห่งความลึกออกไปในห้วงอวกาศที่จีนได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การท่องอวกาศของยานอวกาศที่เพิ่มขึ้นไม่เว้นแต่ละวันในช่วง 10 ปีหลังนี้เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด จีนยังติดตั้ง “ดวงตาท้องฟ้า (Sky Eye) เพื่อเกาะติดและศึกษาการเป็นไปในห้วงลึกของอวกาศ ตั้งแต่ระดับวงโคจรโลกไปจนถึงปลายขอบของระบบสุริยะ 

โดยในชั้นนี้ จีนได้ก่อสร้างและเชื่อมโยงสถานีวัดและควบคุมอวกาศหลายแห่งเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ ด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ไฮเทคล้ำสมัยดังกล่าว ก็ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการวัดและควบคุมการเปลี่ยนแปลงของสิ่งที่เกิดขึ้นนอกโลกได้ดีขึ้น

ผ่านมาครึ่งทางแล้ว ผมขอเก็บความสำเร็จในมิติอื่นไว้คุยกันต่อคราวหน้าครับ ...

เกี่ยวกับผู้เขียน : ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน, อุปนายกและเลขาธิการสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน ผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดจีน มุ่งหวังนำข้อมูลและมุมมอง ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การตลาดและอื่น ๆ  ที่อยู่ในกระแสของจีนมาแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เพื่อเราจะไม่ตกขบวน “รถไฟความเร็วสูง” ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน