อัพเดทแผ่นดินไหวอินโดฯ ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งไม่หยุด ล่าสุดแตะ 162 ราย

22 พ.ย. 2565 | 00:48 น.
อัปเดตล่าสุด :22 พ.ย. 2565 | 07:59 น.

จากกรณีเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 5.6 แมกนิจูดในจังหวัดชวาตะวันตกวานนี้ (21 พ.ย.) ซึ่งแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงกรุงจาการ์ตาเมืองหลวง ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนแตะ 162 ราย หลายพื้นที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้

 

ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ครั้งนี้ อยู่ที่เมืองจิอันจูร์ (Cianjur) ใน จังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร เหตุเกิดในช่วงบ่ายของวันจันทร์ (21 พ.ย.) แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงกรุงจาการ์ตา จนทำให้ประชาชนบางส่วนแตกตื่นอพยพออกจากอาคารสูง รวมทั้งมีรายงานการเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกถึง 25 ครั้ง

 

รายงานข่าวระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากหลักสิบวานนี้มาอยู่ที่ 162 รายแล้ว ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวนมากกว่า 700 ราย นายริดวัน คามิล ผู้ว่าการจังหวัดชวาตะวันตก เปิดเผยว่า สาเหตุของการเสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากอาคารพังถล่มและดินสไลด์

 

บ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมาก

 

“ผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นนักเรียนที่เรียนจบภาคบ่ายแล้ว และกำลังเรียนพิเศษกันอยู่ที่โรงเรียนสอนศาสนา(อิสลาม) เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวและอาคารเรียนได้พังถล่มลงมา”  ผู้ว่าการจังหวัดชวาตะวันตกกล่าว และว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งมีประชาชนในพื้นที่กว่า 13,000 คนที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนักจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ต้องพากันไปอาศัยชั่วคราวที่ศูนย์อพยพ

 

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า บางพื้นที่ในเมืองจิอันจูร์ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ทำให้โรงพยาบาลประสบปัญหาในการรักษาผู้บาดเจ็บ และไม่สามารถทำการผ่าตัดให้ได้

 

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (21 พ.ย.) เวลา 13.21 น.ตามเวลาไทย แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวสามารถรับรู้ได้ไกลถึงกรุงจาการ์ตา ซึ่งห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวถึง 70 กิโลเมตร และทำให้ประชาชนพากันอพยพออกจากบ้านเรือนและอาคารต่างๆ เพื่อความปลอดภัย

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (21 พ.ย.) เวลา 13.21 น.ตามเวลาไทย

 

ด้านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา แจ้งว่า ยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ประชาชนไทยในพื้นที่ใช้ความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการอยู่ในอาคารที่ชำรุดเสียหาย และขอให้ตรวจสอบและติดตามข่าวสารจากทางการอินโดนีเซีย โดยเฉพาะความเป็นไปได้ที่จะเกิดอาฟเตอร์ช็อกอย่างสม่ำเสมอ