รู้จัก 'วันขอบคุณพระเจ้า' (Thanksgiving Day) สำคัญอย่างไร ทำไมต้องฉลอง

25 พ.ย. 2565 | 00:31 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2565 | 09:33 น.

วันขอบคุณพระเจ้า เป็นวันที่คนอเมริกันรำลึกขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ช่วยให้ผู้อพยพที่มาตั้งรกรากในอเมริกาชุดแรก รอดชีวิตมาได้เมื่อเกือบสี่ร้อยปีที่แล้ว คนอเมริกันทั่วประเทศร่วมฉลองวันสำคัญนี้ ซึ่งกำหนดให้มีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

 

เรามาทำความรู้จัก ‘วันขอบคุณพระเจ้า’ หรือ ‘Thanksgiving Day’ (ซึ่งปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย.) ไปด้วยกัน เริ่มด้วยประวัติความเป็นมาของวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งเริ่มต้นขึ้นมาจากต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 หรือเมื่อเกือบ 400 ปีก่อน

 

ในช่วงเวลานั้น คณะนักจาริกแสวงบุญที่เรียกกันว่า พวกพิลกริม (pilgrims) นิกายศาสนาบริสุทธิ์ หรือ Puritanism ได้ออกเดินทางจากอังกฤษโดยเรือเมย์ฟลาวเออร์ (Mayflower) มาตั้งถิ่นฐานในบริเวณที่ปัจจุบันเป็นเมืองพลีมัธ (Plymouth) ในมลรัฐแมสซาชูเสตส์ (Massachusetts) ของสหรัฐอเมริกา

 

การเข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนใหม่ที่หนาวเย็นไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องเผชิญกับความอดอยาก โรคภัยไข้เจ็บและภูมิอากาศที่เหน็บหนาว ดังนั้น เมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีรุ่งขึ้นของการเข้ามาตั้งถิ่นฐาน (ตรงกับปี ค.ศ. 1621 หรือ พ.ศ. 2164) ซึ่งเท่ากับครบรอบ 1 ปีที่พวกเขารอดชีวิตมาได้  เมื่อเก็บเกี่ยวพืชผลแล้ว พวกพิลกริมส์เหล่านี้ จึงจัดให้มีงานเลี้ยงฉลองขอบคุณพระเจ้า โดยพวกเขาได้เชิญชาวอินเดียนแดงพื้นเมืองมาร่วมด้วย เนื่องจากชาวอินเดียนแดงเหล่านี้ เป็นผู้สอนพวกเขาให้ทำการเพาะปลูกข้าวโพดและพืชผลพื้นเมืองอื่นๆ ไว้เป็นอาหารประทังชีวิต

 

วันขอบคุณพระเจ้า มีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี

 

อาหารในงานเลี้ยงครั้งนั้น ประกอบด้วยสิ่งที่พวกเขามีอยู่ในท้องถิ่น ได้แก่ ไก่งวงป่า เป็ด ห่าน ปลาค้อด และกวาง ดังนั้น ‘ไก่งวง’ จึงกลายมาเป็นอาหารสัญลักษณ์ของวันขอบคุณพระเจ้าตราบจนทุกวันนี้

 

ในอดีต วันขอบคุณพระเจ้าไม่ได้เป็นวันหยุดที่มีการฉลองกันทั่วประเทศ จนกระทั่งนางซาราห์ โจเซฟา เฮล (Sarah Josepha Hale) บรรณาธิการนิตยสารสตรี Godey's Lady's Book ได้ออกมารณรงค์ต่อรัฐสภาสหรัฐ ดังนั้น ในปี ค.ศ. 1863 (พ.ศ. 2406) ประธานาธิบดีลินคอล์นจึงได้ประกาศให้วันขอบคุณพระเจ้าเป็นวันหยุดทั่วประเทศสหรัฐ และสืบเนื่องมาจนทุกวันนี้

 

โดยหน่วยงานรัฐบาลจะปิดทำการทั้งในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่สี่ของเดือนพฤศจิกายน จากนั้นจึงจะเปิดทำการกันอีกครั้งก็ในวันจันทร์ถัดมา

 

วันขอบคุณพระเจ้าถือเป็นวันที่สมาชิกในครอบครัวที่แยกย้ายกันออกไปอยู่ตามมลรัฐต่างๆ จะพยายามเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านกันเพื่อใช้เวลากับครอบครัวและรับประทานอาหารร่วมกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ช่วงวันขอบคุณพระเจ้านี้ มีคนเดินทางกันแน่นขนัดที่สุดในรอบปีของสหรัฐอเมริกา

 

‘ไก่งวง’ เป็นอาหารสัญลักษณ์ของวันขอบคุณพระเจ้า ตั้งแต่อดีตมาตราบจนทุกวันนี้

ธรรมเนียมเกี่ยวกับอาหารวันขอบคุณพระเจ้า

ชาวอเมริกันจะอบไก่งวงที่มีเครื่องยัดไส้ ประกอบด้วย ขนมปังหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ เห็ด คึ่นฉ่ายฝรั่ง หอมใหญ่ และเครื่องเทศ อาหารเคียงคือมันเทศอบ และซอสแครนเบอร์รี ตบท้ายด้วยของหวาน ที่มักจะได้แก่ พายฟักทองหรือพายแอปเปิล

 

สถิติจากสมาพันธ์ไก่งวงแห่งชาติ ระบุว่า 88% ของครอบครัวคนอเมริกัน มีไก่งวงเป็นส่วนหนึ่งของอาหารในวันขอบคุณพระเจ้า โดยเมื่อปี 2564 มีไก่งวงที่กลายเป็นอาหารของคนอเมริกันในเทศกาลนี้ จำนวนกว่า 40 ล้านตัว!

 

สำนักข่าววีโอเอ สื่อใหญ่ของสหรัฐ รายงานว่า สำหรับคนอเมริกันส่วนใหญ่ เมื่อพูดถึงเทศกาลของคุณพระเจ้า นี่คือวาระโอกาสของการรับประทานอาหารร่วมกับครอบครัว นอกจากนี้ ยังหมายถึงการชมการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลร่วมกัน และชมขบวนพาเหรดวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งอาจจะจบด้วยการชอปปิ้งในช่วงเย็น ต่อเนื่องจนถึงวันรุ่งขึ้นซึ่งเรียกกันว่า วันแบล็คฟลายเดย์ (Black Friday)

 

Black Friday และการชอปปิ้งสนั่นเมือง

สมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NRF ประเมินว่า แต่ละปีจะมีชาวอเมริกันที่แห่กันซื้อสินค้าในช่วงสัปดาห์แห่งวันขอบคุณพระเจ้ามากกว่า 160 ล้านคน

 

โดยช่วงแห่งการแห่แหนกันจับจ่ายใช้สอยนั้น เริ่มตั้งแต่วันขอบคุณพระเจ้าซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดี มาจนถึงวัน Black Friday หรือวันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า ต่อด้วยวัน Small Business Saturday และปิดท้ายการใช้เงินอย่างคุ้มค่าคุ้มราคา (เนื่องจากมีการกระหน่ำลดราคาสินค้า) ในวันจันทร์ถัดมาที่เรียกว่า Cyber Monday ที่สินค้าออนไลน์จะลดแลกแจกแถมกันอย่างคึกคักส่งท้ายปี

 

อย่าพลาดชมขบวนพาเหรดของห้างสรรพสินค้าเมซีส์

เป็นอีกธรรมเนียมของวันขอบคุณพระเจ้าที่สืบเนื่องมาเป็นเวลา 96 ปีแล้ว ที่ห้างสรรพสินค้าเมซีส์ (Macy's) ได้จัดงานเดินขบวนพาเหรดในวันขอบคุณพระเจ้าเป็นประจำทุกปี ที่นครนิวยอร์ก จนกลายมาเป็นขบวนพาเหรดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

 

ปีนี้ คาดว่าจะมีผู้ชมขบวนพาเหรดของห้างสรรพสินค้าเมซีส์ที่นิวยอร์กจำนวนมากกว่า 3.5 ล้านคน และผู้ชมทางโทรทัศน์กว่า 40 ล้านคน