วันพ่อ หรือ วันพ่อแห่งชาติ ของประเทศไทยตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี โดยไทยถือเอาวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่9) เป็นวันพ่อแห่งชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นวันชาติ และเป็นวันหยุดราชการด้วย
ส่วนในต่างประเทศก็มีวันพ่อ หรือ Father’s Day เช่นกัน ทั้งนี้ กว่า 50 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ อาร์เจนตินา มาเลเซีย และญี่ปุ่น กำหนดให้วันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายน เป็นวันพ่อ
โดยประวัติการกำเนิดและเฉลิมฉลองวันพ่อของสหรัฐอเมริการะบุไว้ว่า วันพ่อแห่งชาติของสหรัฐ นั้นเกิดขึ้นหลังจากที่มี "วันแม่" ถึง 40 ปี ทั้งที่มีความพยายามเสนอเรื่องนี้ในรัฐสภามาหลายครั้ง จนกระทั่งปี 1966 (พ.ศ. 2509) ประธานาธิบดี ลินดอน บี จอห์นสัน ได้ประกาศ ระบุให้วันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายน เป็นวันพ่อแห่งชาติ เพื่อสดุดีพระคุณพ่อและผู้ที่ทำหน้าที่เยี่ยงพ่อ จากนั้นอีก 6 ปีต่อมา ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน จึงได้ลงนามเป็นกฎหมายในปี 1972 (พ.ศ. 2515) ให้วันพ่อเป็นวันหยุดราชการ และมีการเฉลิมฉลองกันทั่วประเทศ
ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงกับสหรัฐอเมริกา ก็มีธรรมเนียมจัดฉลองวันพ่อในวันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายนของทุกปีเช่นกัน ถือว่าเป็นเทศกาลใหญ่ โดยนอกจากจะมีการจัดตกแต่งบ้านและมีการจัดงานฉลองต่าง ๆ ภายในชุมชนแล้ว วันพ่อของแคนาดาจะมีการใช้ "ดอกกุหลาบ" เป็นสัญลักษณ์ในการแสดงออกถึงความรักและความกตัญญูต่อพ่อด้วย โดยจะมีการติดดอกกุหลาบไว้ที่ตัว ซึ่งตามธรรมเนียมดั้งเดิมจะมีการแบ่งแยกสีกุหลาบอย่างชัดเจนด้วย โดยคนที่ติดกุหลาบแดง หมายความว่าพ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าหากติดกุหลาบสีขาวแปลว่า พ่อของเขาเสียแล้ว ถือเป็นธรรมเนียมเก่าแก่เฉกเช่น "วันแม่" ที่มีการติดดอกคาร์เนชันสีแดงและสีขาวในวันแม่
สำหรับวันพ่อของ ประเทศสหราชอาณาจักร ตรงกับวันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายนเช่นกัน โดยในยุคอดีตก่อนที่จะมีการกำหนด "วันพ่อ" อย่างเป็นทางการ ประเทศสหราชอาณาจักรไม่ได้มีธรรมเนียมตายตัวในการจัดฉลองวันพ่อ การจัดกิจกรรมเป็นไปตามสะดวก โดยส่วนใหญ่จะมีการมอบของขวัญ เช่น การ์ดอวยพร ดอกไม้ ช็อกโกแลต และเนคไทให้พ่อ เด็กเล็กมักจะทำของขวัญให้พ่อด้วยตนเอง ในโรงเรียนหรือชุมชนต่าง ๆ มักจะมีกิจกรรมวันพ่อเพื่อให้พ่อกับลูกได้ทำร่วมกัน
หันมองมาทางเอเชีย หลายประเทศรับอิทธิพลมาจากประเทศตะวันตก จึงมีวันพ่อตรงกับวันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายนเช่นกัน อาทิ อินเดีย ที่เทศกาลวันพ่อถือเป็นเรื่องใหม่ เพิ่งมีการเฉลิมฉลองวันพ่อได้ไม่นานและเป็นการรับอิทธิพลมาจากตะวันตก ซึ่งความหมายและวัตถุประสงค์ก็เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรักต่อพ่อเช่นกัน จึงมีการจัดงานฉลองตามเมืองใหญ่ ๆ มีการทำของขวัญและมอบของขวัญให้พ่อ เช่นการ์ดอวยพร ดอกไม้ ของกิน หรือพาพ่อออกไปรับประทานอาหาร ไปปิกนิก หรือดูหนังด้วยกัน นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมในโรงเรียนเพื่อปลูกฝังเรื่องความกตัญญูให้กับเด็ก ๆ เป็นต้น
ส่วนทาง ประเทศกลุ่มอาเซียน หรือ 10 ชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกือบทุกประเทศ ได้แก่ เมียนมา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา และบรูไน กำหนด "วันพ่อ" ให้ตรงกับอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายนเช่นกัน มีเพียง 2 ประเทศ ที่แตกต่างออกไป คือ ไทยที่ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม และอินโดนีเซียที่ตรงกับวันที่ 12 พฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศยุโรปซึ่งประชากรส่วนใหญ่ของประเทศนับถือศาสนาคริสต์ การฉลองวันพ่ออาจมีที่มาจากเรื่องราวทางศาสนา เช่น อิตาลี และสเปน ถือเอาวันที่ 19 มีนาคมของทุกปี เป็นวันพ่อ เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันเซนต์โจเซฟ ซึ่งนักบุญเซนต์โจเซฟนั้นเป็นที่นับถือและยกย่องในฐานะเป็นแบบอย่างของการเป็นพ่อและสามีที่ดี
วันพ่อของประเทศอื่นๆ เท่าที่มีการรวบรวมไว้นั้น ยังได้แก่
เกาหลี : วันที่ 8 พฤษภาคม
ประเทศโรมาเนีย : วันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม
ประเทศออสเตรีย : สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมิถุนายน
ประเทศเดนมาร์ก : วันที่ 5 มิถุนายน (วันรัฐธรรมนูญของเดนมาร์ก)
ประเทศอียิปต์ : วันที่ 21 มิถุนายน
ประเทศโปแลนด์ : วันที่ 23 มิถุนายน
ประเทศบราซิล : วันอาทิตย์ที่สองของเดือนสิงหาคม
ประเทศไต้หวัน : วันที่ 8 สิงหาคม
ประเทศสวีเดน : วันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน
ประเทศเนปาล : วันพระจันทร์เต็มดวงปลายเดือนสิงหาคม หรือ ต้นเดือนกันยายน
วันพ่อของบางประเทศก็ไม่ได้เรียกว่า วันพ่อ โดยตรง แต่เรียกว่า "วันของผู้ชาย" หรือ Men's Day ซึ่งใน รัสเซีย วันนี้ตรงกับวันที่ 23 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกกำหนดขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้ชายที่รับใช้ชาติในกองทัพอากาศของรัสเซียในฐานะผู้ที่คอยคุ้มครองประเทศ มีการจัดขบวนพาเหรด การมอบของขวัญ และถือเป็นวันหยุดราชการ ขณะที่ใน เยอรมนี วันพ่อที่เรียกว่าวันของผู้ชาย จะตรงกับวันที่ 40 เมื่อนับไปหลังวันอีสเตอร์ ซึ่งถือกันว่าตรงกับวันเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูคริสต์ตามความเชื่อของชาวคริสต์
ไม่ว่าวันพ่อของแต่ละประเทศจะตรงกับวันไหน แต่วันพ่อก็คือวันที่ลูกๆทุกคนจะได้รำลึกถึง "พ่อ" ผู้ให้กำเนิดหรือผู้มีพระคุณ ผู้ที่ปกป้องคุ้มภัย ผู้ที่ให้ความรัก ความอบอุ่น ความมั่นคง อย่างที่เราเรียกได้อย่างเต็มปากเต็มใจว่า “พ่อ” นั่นเอง