‘กรุงเทพฯ-ภูเก็ต’ยังตรึง Top5 ในใจนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่

30 ม.ค. 2566 | 19:01 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ม.ค. 2566 | 23:23 น.

นอกจากฮ่องกงและมาเก๊าแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวจีนให้ความนิยมมากที่สุดในช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา ก็คือ กรุงเทพฯ และภูเก็ต ซึ่งมาเป็นอันดับที่ 3 และที่ 5 ตามลำดับ

 

เว็บไซต์ ทริปดอตคอม (Trip.com) ของ ทริปดอตคอม กรุ๊ป (Trip.com Group) บริษัทผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยว รายใหญ่ในจีน โดยเฉพาะทางด้านออนไลน์ เปิดเผยว่า ในช่วง 4 วันแรกของวันหยุดยาว 7 วันสำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา (21-27 ม.ค.) ชาวจีนแผ่นดินใหญ่จองตั๋วเครื่องบินผ่านบริการของบริษัท ไปเที่ยวฮ่องกงและมาเก๊า (ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน) มากที่สุดเป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ

แต่ที่น่าสนใจและไม่เกินความคาดหมายก็คือ 3 อันดับที่ตามมา เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของทัวริสต์ชาวจีนที่ครองอันดับมาอย่างเหนียวแน่น ตั้งแต่ช่วงที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด โดยอันดับ 3-5 นั้นได้แก่

  • อันดับ3 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
  • อันดับ4 สิงคโปร์
  • อันดับ5 ภูเก็ต ประเทศไทย   

ปี 2566 เป็นปีแรกที่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกท่องเที่ยวในต่างประเทศได้อย่างเต็มรูปแบบหลังจากที่รัฐบาลตัดสินใจผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ประกาศใช้มายาวนานเกือบ 3 ปี

ทั้งนี้ ทริปดอตคอมเปิดเผยว่า การจองตั๋วเครื่องบินไปยังจุดหมายปลายทางนอกจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วงเวลา 4 วันแรกของวันหยุดยาวตรุษจีนเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ในช่วงเดือนธ.ค.2565 รัฐบาลปักกิ่งประกาศผ่อนปรนว่านับตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.เป็นต้นไป ผู้เดินทางที่มาเยือนจีนไม่จำเป็นต้องกักตัวเมื่อเดินทางมาถึงจีน และขณะเดียวกัน ชาวจีนก็สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศได้สะดวกมากขึ้น นับเป็นการยุติมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามแดนที่มีมาเกือบ 3 ปีระหว่างที่มีการระบาดหนักของโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ต้องบันทึกไว้ด้วยว่า จุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับท็อปของชาวจีนอีก 2 แห่ง คือญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่ไม่ติดอันดับนั้น ก็เพราะทั้งสองประเทศได้กำหนดมาตรการควบคุมการเข้าประเทศโดยเจาะจงนักท่องเที่ยวจากจีน จนทำให้ถูกรัฐบาลจีนโต้ตอบกลับด้วยการระงับชั่วคราวการออกวีซ่าเข้าประเทศจีนให้กับผู้ที่เดินทางมาจากสองประเทศดังกล่าวด้วยเช่นกัน ขณะที่สิงคโปร์และไทย ไม่ได้มีมาตรการในเชิงเลือกปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวจีนแต่อย่างใด

กรุงเทพฯ และภูเก็ต ยังคงครองใจนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอันดับต้นๆ

แม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดในจีนจะยังคงน่ากังวล แต่หลายประเทศก็ยินดีที่จะเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวจีนที่ได้ชื่อว่า เป็นนักช็อปจ่ายหนัก โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัย ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลในปี 2562 ชี้ว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางออกเยือนต่างประเทศ ได้ใช้เงินจับจ่ายซื้อสินค้าระหว่างการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่ารวม 54,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ        

การท่องเที่ยวในประเทศก็พุ่งแรงเช่นกัน

ในส่วนของการท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมานั้น กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน รายงานว่า ปริมาณการเดินทางภายในประเทศอยู่ที่ราว 308 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 23.1% เมื่อเทียบปีต่อปีกับตรุษจีนปี 2565 โดยสำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของทางการจีน รายงานว่า รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน ระยะเวลา 7 วัน รวมมูลค่าที่ 3.76 แสนล้านหยวน หรือราว 1.82 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบปีต่อปี

ทั้งนี้ สถานที่ท่องเที่ยวระดับเอ (A-level) รวม 10,739 แห่ง ซึ่งคิดเป็น 73.5% ของสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดในประเทศจีน  เปิดให้บริการตามปกติในช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนปีนี้

นอกจากนั้น ทั้งภาครัฐและเอกชนจีนยังมีการจัดสารพัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวทั่วประเทศด้วยวัตถุประสงค์ก็เพื่อกระตุ้นการบริโภคยามค่ำคืนในช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนด้วย

 

ขอบคุณภาพจากสำนักข่าวซินหัว