จากกรณีเหตุ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ใน ตุรกี และ ซีเรีย เมื่อวันจันทร์ (6 ก.พ.) ซึ่งขณะนี้ทำให้มี ผู้เสียชีวิต รวมกว่า 12,000 รายแล้ว รวมทั้งชาวไทย 1 รายซึ่งได้รับการยืนยันวานนี้ (8 ก.พ.) นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ เฟซบุ๊กในหัวข้อ “แผ่นดินไหว” เช้าวันนี้ (9 ก.พ.) ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะเป็นจุดประสานงานกลาง Focal Point ในการให้ความช่วยเหลือทั้งสองประเทศดังกล่าว
พร้อมกันนี้ ได้เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมจะมอบเงินช่วยเหลือแก่เอกอัครราชทูตตุรกีที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (ซึ่งในเบื้องต้นจะมอบเงินช่วยเหลือ 5 ล้านบาทแก่ตุรกี และ 1 ล้านบาทแก่ซีเรีย)
ส่วนความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ ประกอบด้วย
ทั้งนี้ ยอมรับว่า การทำงานของทีมช่วยเหลือจากไทยจะต้องประสบปัญหายากลำบากอย่างมาก ต้องทำงานภายใต้สภาวะที่เสี่ยงเนื่องจากยังมีอาฟเตอร์ช็อก อาคารจำนวนมากอาจถล่มลงมาได้อีกทุกขณะ สภาพอากาศหนาวเย็น ไม่มีที่พัก ไม่มีอาหาร ทีมไทยต้องจัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเอง เพื่อการช่วยเหลือคนท้องถิ่น
ส่วนกรณีที่มีรายงานล่าสุดว่า มี คนไทยเสียชีวิตหนึ่งคน จากเมือง Iskenderun ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบแผ่นดินไหว กำลังติดต่อแจ้งให้ญาติและครอบครัวในประเทศไทยทราบ เพื่อประสานงานในการนำศพกลับ
ส่วนความช่วยเหลือด้านซีเรียซึ่งมีความเสียหายมากเช่นกันนั้น ไทยไม่มีสถานทูตในซีเรียต้องอาศัยคณะทูตไทยจากเตหะราน ประเทศอิหร่านที่มีเจ้าหน้าที่เพียง 3 คนเดินทางเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจ และให้ความช่วยเหลือ ในเบื้องต้นไทยได้เตรียมยาและเวชภัณฑ์ให้ซีเรียเพื่อรอการส่งมอบ
สถานทูตตุรกีเปิดรับบริจาค บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย
เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บ และเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่ทางสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐวัดได้ (นับตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่ห่างไกลทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อเดือนสิงหาคม 2021) ทำให้การช่วยเหลือเต็มไปด้วยความยากลำบาก และประชาชนที่ประสบภัยจำนวนหลายหมื่นคนไร้ที่อยู่อาศัย
เฟซบุ๊กของสถานทูตตุรกีได้โพสต์ประกาศวานนี้ (8 ก.พ.) ขอรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวจำพวก อาหารแห้ง อุปกรณ์ยังชีพ เสื้อผ้ากันหนาว ยารักษาโรค ฯลฯ
ทั้งนี้ สามารถบริจาคสิ่งของได้ที่สถานเอกอัคราชทูตฯ(1601,1617,1617/1) ชั้น 16 อาคาร 1 เอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กทม. 10120 จนถึงวันที่ 13 ก.พ. ในช่วงเวลา 10.00-12.00น