หลังจากที่ ตระกูลเกลเซอร์ (Glazer Family) เจ้าของสโมสรฟุตบอลชื่อดัง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ที่รู้จักกันในสมญานาม “ผีแดง” หรือ “ปีศาจแดง” ได้ยื่นข้อเสนอพร้อม ขายสโมสร ในราคา 6,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2.5 แสนล้านบาท ให้กลุ่มทุนหรือมหาเศรษฐีทั่วโลกที่สนใจ แย่งกันซื้อโดยมีเส้นตายเบื้องต้นสำหรับการยื่นราคาซื้อภายในวันศุกร์นี้ (17 ก.พ.) สื่อท้องถิ่นรายงานว่า จนถึงขณะนี้ มีผู้สนใจ 5 ราย ปรากฏให้เห็น ซึ่งหากขายได้ในราคาที่ตระกูลเกลเซอร์เสนอเอาไว้ ก็จะกลายเป็น การขายสโมสรฟุตบอลในราคาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก หรือสูงกว่าการขายทีมเชลซีเมื่อปีที่แล้ว (2565) เกือบ 50% โดยครั้งนั้นเชลซีปิดดีลซื้อขายที่ราคา 4,250 ล้านปอนด์ หรือ 1.7 แสนล้านบาท
เดลี่เมล์ สื่อท้องถิ่นของอังกฤษ รายงานว่า ถึงแม้จะเป็นราคาเสนอขายที่สูงมาก แต่ล่าสุดก็ยังมีกลุ่มมหาเศรษฐีทุนหนาจำนวนถึง 5 ราย ที่พร้อมจะยื่นข้อเสนอเข้ามาซื้อทีมแมนยูฯอย่างจริงจัง ประกอบด้วย
รายงานข่าวระบุว่า บางรายได้เสนอราคาไปแล้ว ขณะที่บางรายยังไม่ได้ยื่นเสนอ โดยขั้นตอนแรกซึ่งยังเปิดโอกาสอยู่ คือการให้ผู้ที่สนใจยื่นข้อเสนอราคาเข้ามา จากนั้น กลุ่มที่ลงนามสัญญาว่าจะเก็บข้อมูลเป็นความลับ (confideltiality agreement) จะได้ช่องทางเข้าถึง data room หรือฐานข้อมูลทางการเงินของทีมแมนยูฯ
ในขั้นนี้ มีข่าวว่า กลุ่มของซาอุดิอาระเบีย ได้ผ่านขั้นตอนเข้ามาถึงขั้นการเข้าถึงฐานข้อมูลทางการเงินของแมนยูฯแล้ว แต่หลังจากนั้นทางกลุ่มจะยื่นเสนอราคาซื้ออย่างเป็นทางการหรือไม่นั้น ยังไม่มีการเปิดเผย
รายงานระบุว่า เริ่มแรกที่มีข่าวว่าตระกูลเกลเซอร์กำลังมีแผนจะขายสโมสรปีศาจแดงนั้น มีกลุ่มต่าง ๆราว 20 กลุ่มแสดงความสนใจ ก่อนที่จะเริ่มลดลงมาเหลือ 5 กลุ่มในช่วงโค้งสุดท้าย ทำให้ตระกูลเกลเซอร์ตกเป็นฝ่ายที่มีกำลังต่อรองสูง และอาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะไม่ขายหุ้นไปทั้งหมด แต่อาจจะเก็บหุ้นถือไว้บางส่วน
นอกจากนี้ เดลี่เมล์ยังรายงานด้วยว่า กลุ่มจากการ์ตากลุ่มแรกที่นำโดย ชีค ทามิม บินฮาหมัด อัลธานี ประมุขของรัฐคนปัจจุบันนั้น แสดงความมั่นใจมากว่า กลุ่มของพวกเขาได้ยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดแล้ว
สำหรับชีค ทามิม บิน ฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล ธานี ประมุขแห่งกาตาร์องค์ปัจจุบันนั้น สื่อระบุว่า พระองค์เตรียมทุ่มงบซื้อแมนยูฯ ด้วยมูลค่า 8,000 ล้านปอนด์ หรือราว 3.2 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาเสนอขายที่เจ้าของสโมสรตั้งไว้เสียอีก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะทรงมีทรัพย์สินส่วนพระองค์มากถึง 3.35 แสนล้านดอลลาร์ หรือเทียบเป็นเงินไทย ราว 10 ล้านล้านบาท
มีพระราชวังมากมายทั้งในประเทศกาตาร์ และโอมาน และยังมียานพาหนะประจำตำแหน่ง เป็นรถยนต์ซูเปอร์คาร์มากมาย รวมทั้งเรือยอชต์ขนาดใหญ่อีก 2 ลำ ราคาตกลำละ 300 ล้านปอนด์ หรือ 12,000 ล้านบาทไทย นอกจากนี้ ยังมีสายการบินที่ให้บริการเฉพาะ VIP ส่วนตัว ที่มีชื่อว่า Qatar Amiri Flight อีกด้วย
หากเปรียบเทียบชีค ทามิม บิน ฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล ธานี กับ ชีค มันซูร์ อัล นาห์ยาน ที่เป็นเจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คนปัจจุบัน ก็จะพบว่า ชีคทามิมฯ มีทรัพย์สินมากกว่า ชีค มันซูร์ ถึง 20 เท่าตัว เพราะชีค มันซูร์ฯ ที่ว่ารวยแล้ว ยังมีทรัพย์สินทั้งหมดเพียง 12,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5 แสนล้านบาท) เท่านั้น
รอลุ้นผลว่า จะขายได้กำไรกี่มากน้อย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข่าวการขายสโมสรผีแดงมีออกมาเป็นระยะๆ โดยปลายปี 2021 สื่ออังกฤษรายงานว่า ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของทีมแมนยูฯ ตั้งราคาขายทีมเอาไว้เรียบร้อยแล้วที่ราวๆ 4,000 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 1.7 แสนล้านบาท แต่ก็ไม่มีดีลซื้อขายเกิดขึ้นโดยหลายฝ่ายมองว่า ราคาดังกล่าว "สูงเกินไป"
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ (2023) เมื่อตระกูลเกลเซอร์เสนอขายสโมสรในราคา 6,000 ล้านปอนด์ หรือกว่า 7,225 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลับมีผู้สนใจเสนอราคาซื้อถึง 5 ราย
นับจนถึงปัจจุบัน ตระกูลเกลเซอร์ครอบครองสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มา 18 ปีแล้ว โดยเมื่อครั้งที่พี่น้องตระกูลนี้ซื้อสโมสรในปี 2005 นั้น พวกเขาใช้เงินซื้อเพียง 955.5 ล้านดอลลาร์เท่านั้น