นักวิเคราะห์ของ แบงก์ ออฟ อเมริกา (BoFA) คาดการณ์ว่า จำนวนสมาชิกที่สมัครบริการแบบชำระเงินที่ชื่อว่า "Meta Verified" ของ บริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ จะมีเกือบ 12 ล้านคนภายในปี 2567
นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเมตาประกาศเปิดตัวการบริการ Meta Verified บนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะมีฟีเจอร์และสิทธิพิเศษเพิ่มเติมให้ เช่น
โดยมีค่าบริการอยู่ที่ 11.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งเมตาจะเริ่มทดสอบบริการดังกล่าวในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์ของ BoFA ระบุว่า บริการ Meta Verified ของบริษัทเมตานั้น เป็นบริการที่พุ่งเป้าเจาะกลุ่มเป้าหมายอย่างอินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ มากกว่าที่จะเป็นกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป และคาดว่าในท้ายที่สุดแล้วธุรกิจต่าง ๆ ก็จะหันมาใช้บริการดังกล่าวเช่นกัน
โดยนักวิเคราะห์มองว่า บริการ Meta Verified จะสามารถดึงดูดกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ได้ เนื่องจากบริการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มการมองเห็น เพิ่มการเข้าถึง และเพิ่มความสามารถในการสืบค้นเนื้อหา
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า การที่เมตากำหนดค่าบริการ 11.99 ดอลลาร์ต่อเดือนจาก Meta Verified จะช่วยให้บริษัทมีรายได้สูงถึง 1,700 ล้านดอลลาร์ในปี 2567
การเปิดตัวบริการ Meta Verified มีขึ้นหลังจาก ทวิตเตอร์ เปิดตัวบริการ Twitter’s Blue ในเดือนธ.ค. 2565 โดยคิดว่าบริการ 8 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับผู้ใช้งานเว็บ และ 11 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับประชาชนที่ซื้อบริการผ่านแอปสโตร์ของบริษัทแอปเปิ้ล โดยปัจจุบัน บริการดังกล่าวของทวิตเตอร์ มีผู้ใช้งานเกือบ 300,000 คนทั่วโลก
นอกจากนี้ บริษัทสแนป ยังเปิดตัวบริการสมาชิกในลักษณะเดียวกัน ที่เรียกว่า Snapchat+ ในเดือนมิ.ย. 2565 คิดค่าบริการ 3.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยสแนปเปิดเผยในรายงานผลประกอบการครั้งล่าสุดเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ผู้ใช้บริการ Snapchat+ มีมากกว่า 2 ล้านคน