ประวัติตุ๊กตาบาร์บี้ 9 มีนาคม ถึงปีนี้ก็เป็นคุณยายอายุ 64 แล้ว!
9 มีนาคม 2502 เป็นวันถือกำเนิด "ตุ๊กตาบาร์บี้" ผลงานชิ้นเอกของบริษัทแมทเทล เนื่องจากมีการเปิดตัวตุ๊กตาบาร์บี้ตัวแรกภายในงาน American Toy Fair ในนครนิวยอร์ก
ที่กล่าวว่า ตุ๊กตาบาร์บี้ (Barbie) เป็นผลงานชิ้นเอกของ บริษัท แมทเทล อิงค์ (Mattel Inc.) ผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่สัญชาติอเมริกัน เพราะนี่คือ ตุ๊กตา ที่มีการจำหน่ายมาอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลากว่า 64 ปี เมื่อวางตลาดในปีแรก (ค.ศ.1959 หรือพุทธศักราช 2502) ก็ทำยอดขายสูงกว่า 350,000 ตัว และถึงทุกวันนี้ ประมาณการว่า มีตุ๊กตาบาร์บี้กว่า 1,000 ล้านตัววางจำหน่ายใน 150 ประเทศทั่วโลก
ริชาร์ด ดิคสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (ซีโอโอ) ของแมทเทล เปิดเผยเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา (2565) ว่า ตุ๊กตาบาร์บี้ทำรายได้ 1,679 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่บาร์บี้ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็นสัดส่วน 73% ของรายได้แผนกตุ๊กตา หรือราว 27% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทแมทเทล
ฉะนั้น หากนับถึงปีนี้ ตุ๊กตาบาร์บี้ก็เป็นสินค้าที่มีอายุยาวนานในตลาดถึง 64 ปี เป็นคุณยายบาร์บี้ที่ยังคงสวยสดใส และมีพัฒนาการมาโดยตลอด ต่อไปนี้เป็น เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับตุ๊กตาบาร์บี้
1) ผู้ให้กำเนิดตุ๊กตาบาร์บี้ คือ รูธ แฮนด์เลอร์ นักธุรกิจหญิงชาวอเมริกัน เธอได้แรงบันดาลใจมาจาก “บาร์บารา” ลูกสาวผู้ชื่นชอบการเล่นตุ๊กตากระดาษ และมักสวมบทบาทให้ตุ๊กตาทำกิจกรรมต่างๆ เหมือนที่ผู้ใหญ่ทำ รูธจึงเริ่มความคิดที่จะสร้างสรรค์ตุ๊กตาสาวที่มีรูปร่างเป็นผู้ใหญ่
2) ต่อมา เมื่อแฮนด์เลอร์มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวยุโรปในปี 2499 เธอก็ไปสะดุดตากับตุ๊กตา "ไบล์ด ลิลลี" ของเยอรมนี ซึ่งเป็นตุ๊กตาหญิงสาววัยทำงานที่วางจำหน่ายครั้งแรกในเยอรมนีปี 2498 โดยทางผู้ผลิตกะเจาะกลุ่มเป้าหมายกลุ่มผู้ใหญ่ แต่กลับได้รับความนิยมในหมู่เด็กๆ มากกว่า ตุ๊กตาดังกล่าววางจำหน่ายในร้านขายของในสวิตเซอร์แลนด์ แฮนด์เลอร์ซื้อกลับบ้านมา 3 ตัว โดยให้ลูกสาวไป 1 ตัว ที่เหลือ 2 ตัว เธอนำมาเป็นต้นแบบในการผลิตตุ๊กตาบาร์บี้
3) ตุ๊กตาของแฮนด์เลอร์ที่ดัดแปลงมาจากตุ๊กตา"ไบล์ด ลิลลี" ของเยอรมนี มีความสูงประมาณ 11 นิ้ว พร้อมผมสีบลอนด์ทอง มีชื่อใหม่ว่า "บาร์บี้" ตามชื่อของลูกสาวเธอ หรือในชื่อเต็มว่า บาร์บี้ มิลลิเซ็น โรเบิร์ท (Barbie Millicent Roberts)
4) บาร์บี้ถูกนำไปเปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมของเล่นนานาชาติ American International Toy Fair ที่มหานครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2502 จึงถือเป็นวันเกิดอย่างเป็นทางการของบาร์บี้มาจนถึงปัจจุบัน
5) บริษัท แมทเทล อิงค์ คือ ผู้ได้รับสิทธิในการผลิตตุ๊กตาบาร์บี้ โดยบาร์บี้รุ่นแรกมาในชุดว่ายน้ำลายทางขาวดำแบบม้าลาย ผมสีบลอนด์ยาวตรงและมีผมหน้าม้า เธอเป็นตัวแทนของแฟชั่นวัยรุ่น เสื้อผ้าทุกชุดออกแบบโดยดีไซเนอร์ของแมทเทล
6) ตุ๊กตาบาร์บี้จำลองสัดส่วนมาจากหญิงสาว กล่าวกันว่าเป็นการย่อขนาดลงมา 6 เท่า โดยความสูงตุ๊กตาจะอยู่ที่ 11.5 นิ้วโดยประมาณ ส่วนมากมักจะเป็นเด็กผู้หญิง หญิงสาว หรือบางคอลเลกชันก็เป็นเจ้าหญิง ดารา หรือคาแรคเตอร์จากภาพยนตร์ต่างๆ ของฮอลลีวูด
7) ตุ๊กตาบาร์บี้คอยสร้างความสนุกสนานและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กผู้หญิงมาโดยตลอด โดยคอลเลกชันในช่วงหลังๆของตุ๊กตาบาร์บี้ ยังสอดแทรกประเด็นทางสังคม เช่น ความเท่าเทียมทางอาชีพ สิทธิสตรี และความแตกต่างหลากหลายของผู้หญิง เราจึงได้เห็นตุ๊กตาบาร์บี้ในเวอร์ชันที่แตกต่างออกไปจากรูปลักษณ์เดิมๆ นอกจากบาร์บี้ทรวดทรงนาฬิกาทรายเอวคอด อกใหญ่ ผมบลอนด์แล้ว เรายังได้เห็นบาร์บี้ผิวสี ผมหยิก บาร์บี้ผอมสูง ร่างใหญ่ บาร์บี้ไม่มีผม บาร์บี้ผิวด่างขาว (ซึ่งเป็นอาการของโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสี) รวมถึงบาร์บี้ใส่ขาเทียม และบาร์บี้นั่งวีลแชร์ เป็นต้น
8) ปี 2557 เป็นปีที่ตุ๊กตาบาร์บี้เผชิญความท้าทาย ทั้งจากการแข่งขันและอายุของสินค้าที่มีมายาวนาน ยอดขายตุ๊กตาบาร์บี้หดลงในอัตราตัวเลขสองหลัก สถานการณ์ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ บริษัทตัดสินใจสร้างการเปลี่ยนแปลงและนี่คือเดิมพันครั้งสำคัญ ในปี 2559 เป็นปีแรกที่ตุ๊กตาบาร์บี้มีวางจำหน่าย 4 รูปร่าง 9 ผิวสี และมีธีมที่หลากหลายมากขึ้น ดังที่กล่าวมาแล้วในข้อ 7) ซึ่งผลตอบรับดีเกินคาด ปัจจุบัน กว่าครึ่งของยอดขายตุ๊กตาบาร์บี้เป็นบาร์บี้ในเวอร์ชันที่ไม่ใช่สาวยุโรปผิวขาวผมบลอนด์
9) นอกจากตุ๊กตาแล้ว บาร์บี้ยังมีสินค้าอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย รวมทั้งเกม หนังสือการ์ตูน อัลบั้มเพลง รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์แอนิเมชัน ฯลฯ
10) ปีนี้ (2566) บาร์บี้ยังจะมีภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดงเป็นเรื่องแรก ภายใต้ชื่อ Barbie ผลงานความร่วมมือระหว่างแมทเทล และวอร์เนอร์ บราเธอร์ส นำแสดงโดย Margot Robbie ผู้รับบทบาร์บี้ เสริมทัพด้วยตัวละครสุดฮิตอย่าง Ken แฟนหนุ่มของบาร์บี้ที่รับบทโดย Ryan Gosling ส่วนผู้เขียนบทและผู้กำกับคือ เกรตา เกอร์วิค กำหนดฉายในเดือนกรกฎาคมนี้
ขอบคุณภาพจาก แมทเทล และวอร์เนอร์ บราเธอร์ส
ข้อมูลอ้างอิง