ช่วงบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาสหรัฐ "โดนัลด์ ทรัมป์" เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ศาลอาญาแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ในคดีที่โยงข่าวอื้อฉาวของเขากับ “สตอร์มี แดเนียลส์” ทำให้ทรัมป์กลายเป็น "อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนแรก" ที่ถูกตั้งข้อหาคดีอาญา และอาจรับโทษ "จำคุกสูงสุด 136 ปี"
ทรัมป์ถูกคณะลูกขุนของศาลฯ สั่งฟ้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาถูกตั้งข้อหาความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ 34 กระทงจากการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ เพื่อจ่ายเงินปิดปาก “สตอร์มี แดเนียลส์” ในช่วงที่ทรัมป์เพิ่งลงหาเสียงเลือกตั้งปี 2559 ไม่ให้เธอพูดถึงสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่เธอเคยมีกับทรัมป์ช่วง 10 ปีก่อนหน้านั้น
ย้อนไทม์ไลน์ปมฉาวสู่ “ข้อหาปลอมแปลงเอกสาร”
หากเพียงแค่ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว แล้วจ่ายเงินสดปิดปากเรื่องก็คงจบ แต่กลับมีกระบวนการลึกลับซับซ้อน ที่เป็นช่องโหว่ที่ทำให้ทรัทป์ถูกดำเนินคดีใน“ข้อหาปลอมเเปลงเอกสาร” เพราะมีการออกแบบกระบวนการจ่ายเงินเพื่อบังหน้าเรื่องอื้อฉาวโดยเฉพาะ
ทรัมป์ได้เซ็นสัญญาข้อตกลงห้ามเปิดเผยข้อมูลกับแดเนียลส์ โดยให้ "นายไมเคิล โคเฮน" อดีตทนายความคู่ใจ จัดการเรื่องจ่ายเงินปิดปากแดเนียลส์ 130,000 ดอลลาร์
ทนายโคเฮน ใช้วิธีการเอาบ้านไปจำนองแล้วนำเงินที่ได้ไปจ่ายให้แดเนียลส์ ผ่านบริษัท Essentail Consultants LLC ที่เขาจัดตั้งขึ้นมาบังหน้าเพื่อการนี้โดยเฉพาะ จากนั้น บริษัทในเครือทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน ก็จ่ายเงินคืนให้ทนายโคเฮนเป็นงวด ๆ โดยลงบัญชีว่าเป็นค่าธรรมเนียมตามกฎหมายของบริษัท
สิ่งนี้เองทำให้ทรัมป์ถูกฟ้องใน "ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจ" ซึ่งถือเป็น "ความผิดทางอาญา"
ชะตากรรมของอดีตทนายคู่ใจ นายโคเฮนนั้น เวลานี้เขากำลังรับโทษในเรือนจำรัฐนิวยอร์ก ตั้งแต่ปี 2562 หลังจากที่เขาสารภาพผิดในคดีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายทรัมป์ ทั้งการฉ้อโกงเงิน, การหลีกเลี่ยงภาษี และการให้การเท็จต่อสภาคองเกรส รวมถึงที่ทั้งการละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
ทรัมป์ปฏิเสธข้อกล่าวหา ยืนยันถูกใส่ร้ายจากฝั่งตรงข้าม
การเดินทางมาศาลครั้งนี้ ทรัมป์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขายอมรับว่าได้จ่ายเงินให้อดีตทนายโคเฮนจริง แต่ปฏิเสธว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย และโทษว่าการตั้งข้อหากับเขาครั้งนี้มีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง
หลังเสร็จสิ้นการรับทราบข้อกล่าวหา เขาได้เดินทางกลับรัฐฟลอริดาและแถลงข่าวช่วงค่ำวันเดียวกัน หรือประมาณ 7 โมงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยระบุว่า เขาเป็นเหยื่อของพวกพรรคเดโมแครตที่สมคบคิดกันหาทางทำลายโอกาสในการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของเขา และเขาถูกใส่ร้ายทางการเมืองมาตลอดหลายปีนี้
ทรัมป์แฉ ลูกสาวอัยการที่ฟ้องตน "ทำงานให้พรรคเดโมแครต"
ทรัมป์ ปิดท้ายการแถลงข่าว ระบุถึง “อัลวิน แบรกก์” อัยการของศาลแขวงแมนฮัตตัน ผู้สืบสวนเรื่องทรัมป์มาตลอดหลายเดือน เขาบอกว่า
"อาชญากรตัวจริงก็คือท่านอัยการศาลแขวง เพราะเขาปูดข่าวแบบผิดกฎหมาย เขาควรถูกฟ้องหรืออย่างน้อยก็ควรลาออก"
จากนั้น ทรัมป์เริ่มลามไปถึงครอบครัวของอัยการแบรกก์ บอกว่าภรรยาของแบรกก์ มักโพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์โจมตีทรัมป์ ในขณะที่ลูกสาวของเขาก็ทำงานให้กับ "นางคามาลา แฮร์ริส" รองประธานาธิบดีรองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครตด้วย
แนวทางตัดสินคดี "ไม่มีผล"ต่อการลงสมัครชิงประธานาธิบดีสมัยหน้า
แม้ทรัมป์จะถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง แต่บรรดานักวิเคราะห์มองกันว่าโอกาสที่เขาจะถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกมีความเป็นไปได้น้อยมาก
และหากเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ก็ไม่ได้มีผลใดๆต่อการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2024 นี้ เนื่องจากไม่มีข้อห้ามเรื่องนี้ระบุไว้ในกฎหมาย และทรัมป์มีคุณสมบัติในการลงสมัครครบทั้ง 3 ข้อ คือ เป็นพลเมืองสหรัฐโดยกำเนิด, อายุ 35 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเป็นผู้พำนักในสหรัฐอย่างน้อย 14 ปี
สำหรับการไต่สวนคดีของทรัมป์ครั้งต่อไป คือในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ต้องรอจับตาว่าเขาจะออกมาสู้คดีและแก้ต่างให้ตัวเองอย่างไร ท่ามกลางกระแสที่มีผลต่อคะแนนเสียงของเขา ทั้งสนับสนุน ต่อต้าน และยังไม่ตัดสินใจใดๆ