หลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐ ยื่นฟ้องดำเนินคดีบริษัทไบแนนซ์ โฮลดิงส์ และ บริษัทคอยน์เบส โกลบอล เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. และ 6 มิ.ย.ตามลำดับ ทำให้ราคาหุ้นของทั้ง 2 บริษัทหล่นวูบลง ฉุดให้ความร่ำรวยของนายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอไบแนนซ์ และนายไบรอัน อาร์มสตรอง ซีอีโอคอยน์เบส พลอยดำดิ่งลงด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น สถานการณ์ดังกล่าวยังบั่นทอนความหวังของนักลงทุนที่ว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหลังจากเผชิญภาวะ "ฤดูหนาวคริปโต" (crypto winter) ในปี 2565 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2566 ทาง SEC ได้ยื่นฟ้องต่อศาลในกรุงวอชิงตันดีซีให้ดำเนินคดีกับบริษัทไบแนนซ์ และนายจ้าว ฉางเผิง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของไบแนนซ์ เนื่องจาก
ต่อมาในวันที่ 6 มิ.ย. SEC ได้ยื่นฟ้องต่อศาลกรุงนิวยอร์กเพื่อให้ดำเนินคดี บริษัทคอยน์เบส โดยระบุว่าคอยน์เบสได้ดำเนินธุรกิจโบรกเกอร์และแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย SEC เรียกร้องให้ศาลมีคำสั่งให้คอยน์เบสยุติการให้บริการดังกล่าวเป็นการถาวร
หลังจากความเคลื่อนไหวดังกล่าว ดัชนี Bloomberg Billionaires Index ซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ชี้ว่า
ข่าวคอยน์เบสถูก SEC ฟ้องดำเนินคดีส่งผลให้ราคาหุ้นคอยน์เบสร่วงลงรุนแรงถึง 12% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันอังคาร (6 มิ.ย.) ทั้งยังฉุดให้ราคาหุ้นของบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มธุรกิจคริปโตเคอร์เรนซีและบล็อกเชนร่วงลงตามๆกันด้วย (อ่านเพิ่มเติม: เกิดอะไรขึ้นกับคอยน์เบส (Coinbase) ทำหุ้นคริปโตร่วงยกแผง)