รายงานการวิจัย "ค่าครองชีพ" (Cost of Living) ฉบับล่าสุดจาก ECA International บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลระดับโลก ระบุว่า ฮ่องกง หลุดจากอันดับ 1 ในการเป็น เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ แล้ว หลังจากครองอันดับ 1 ติดต่อกันมาเป็นเวลาถึง 4 ปี โดยถูก “นิวยอร์ก” เบียดขึ้นมานั่งแท่นอันดับที่ 1 ในปีนี้ (2566)
การวิจัย "ค่าครองชีพ" ฉบับล่าสุดนี้ ได้จัดอันดับเมืองจากทั่วโลกจำนวน 207 เมือง โดยพิจารณาจากสินค้าและบริการที่ผู้เข้าร่วมการวิจัยต้องซื้อในแต่ละวัน เช่น อาหาร สาธารณูปโภค ขนส่งมวลชน รวมทั้งสิ่งของจำเป็นขั้นพื้นฐาน เช่น สินค้าในครัวเรือน โดยการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยองค์กรในการคำนวณค่าครองชีพสำหรับพนักงาน
รายงานระบุว่า ฮ่องกง หลุดจากอันดับ 1 ในปีนี้ เนื่องจากราคาสินค้าและบริการประจำวันในฮ่องกงเพิ่มขึ้นในระดับที่ชะลอตัวลง สาเหตุหลักเนื่องจากค่าที่พักอาศัยในฮ่องกงปรับตัวลดลง
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ฮ่องกง ยังถือเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
ส่วนสิงคโปร์ ที่ติดอันดับ 2 ในกลุ่มเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในเอเชียนั้น ได้ขยับขึ้นมาถึง 8 อันดับจากเมื่อปีที่แล้ว (2565)
ขณะเดียวกันสิงคโปร์ยังติดอันดับ 5 ของเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สิงคโปร์ขยับขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 5 หรือ Top5
สำหรับ เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ 10 อันดับแรก นั้น ได้แก่ (ในวงเล็บคืออันดับเมื่อปีที่แล้ว 2565)
ส่วน เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดสำหรับชาวต่างชาติในเอเชีย 10 อันดับแรก นั้น ได้แก่
ข้อมูลอ้างอิง