อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมเกาหลีใต้ พบเหยื่อน้ำท่วมอุโมงค์เพิ่มเป็น 13 ราย

17 ก.ค. 2566 | 02:25 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.ค. 2566 | 02:29 น.

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาหลีใต้ยังคงเดินหน้าค้นหาเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมอุโมงค์ทางลอดในเมืองชองจู หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน พบแล้ว 13 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจากภาวะน้ำท่วมและดินถล่ม 39 ราย ขณะที่หลายพันคนต้องอพยพหนีน้ำ

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบศพ ผู้เสียชีวิต ที่ติดอยู่ใน อุโมงค์ทางลอด ในเมืองชองจู (Cheongju) ซึ่งอยู่ในภาคกลางของ ประเทศเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้นอีก ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตอัปเดตล่าสุดจากเหตุการณ์ น้ำท่วมอุโมงค์ ดังกล่าว เพิ่มขึ้นเป็น 13 ราย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตโดยรวมจากสถานการณ์ ฝนตกหนัก ต่อเนื่องหลายวันจนทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มครั้งนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 39 ศพแล้ว

ทางการเกาหลีใต้รายงานว่า มีรถยนต์อย่างน้อย 15 คัน ซึ่งรวมถึงรถโดยสาร 1 คัน ที่ติดอยู่ในอุโมงค์ทางลอดในเมืองชองจู อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตออกมาจากอุโมงค์ได้ 9 คนเมื่อวันเสาร์ (15 ก.ค.)

นายโซ จอง-อิล หัวหน้าสถานีดับเพลิงทางตะวันตกของเมืองชองจู เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทั้งหมดยังคงเดินหน้าค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ในอุโมงค์ทางลอดที่ถูกน้ำท่วมดังกล่าวต่อไป พร้อมระบุว่า “เราเน้นปฏิบัติการค้นหาต่อไป เพราะน่าจะยังมีผู้ที่ติดอยู่ในนั้น”

มีรถยนต์อย่างน้อย 15 คัน ซึ่งรวมถึงรถโดยสาร 1 คัน ติดอยู่ในอุโมงค์ทางลอดในเมืองชองจู (ภาพข่าวซินหัว)

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของผู้สูญเสียระบุว่า โศกนาฏกรรมในอุโมงค์ทางลอดใต้ดินดังกล่าวอาจจะป้องกันได้หากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรับมือกับสถานการณ์ได้รวดเร็วกว่านี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีการออกคำเตือนเกี่ยวกับระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างน่าวิตกเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว

พื้นที่ประสบภัยที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากยังได้แก่เมืองที่ตั้งอยู่เชิงภูเขาในภูมิภาค Gyeongsang ทางภาคเหนือของเกาหลีใต้ซึ่งเกิดดินถล่มลงมายังหมู่บ้านเชิงเขา  

ภาวะฝนตกหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ นอกจากจะทำให้ผู้คนจำนวนหลายพันคนต้องอพยพหนีภัย หรือใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสภาพที่ไม่มีไฟฟ้าใช้แล้ว ยังทำให้เกิดเหตุดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ด้วย

ภาวะฝนตกหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพหนีภัย (ภาพจากสำนักข่าวยอนฮัป)

ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (15 ก.ค.) ปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักทั่วประเทศเกาหลีใต้ เพียงวันเดียวนั้นวัดได้เฉลี่ย 300 มม. (ประมาณ 11.8 นิ้ว) ขณะที่ค่าเฉลี่ยระดับน้ำฝนตลอดทั้งปีโดยปกติจะอยู่ที่ 1,000 มม. ถึง 1,800 มม. หรือราว 39.4 นิ้วถึง 70.9 นิ้ว โดยส่วนใหญ่จะมีฝนตกในช่วงฤดูร้อน

กระทรวงมหาดไทยและความปลอดภัยเกาหลีใต้รายงานว่า ณ เวลา 18.00 น.ของวันอาทิตย์ (16 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น) นอกจากจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 รายแล้ว ยังมีผู้สูญหายจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพราะฝนที่ตกหนักทั่วประเทศ 9 คน และมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยแล้ว 8,852 คน ต่อมาเช้าวันจันทร์ (17 ก.ค.) ตัวเลขผู้เสียชีวิตขยับขึ้นเป็น 39 ราย

ทั้งนี้ ตัวเลขของกระทรวงฯ ไม่ได้นับรวมผู้ที่ติดอยู่ในอุโมงค์เมืองชองจู เนื่องจากยังยืนยันไม่ได้ว่า มีคนอยู่ในบริเวณดังกล่าวกี่คน

รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่จังหวัดชุงชองที่อยู่ทางเหนือของเมืองชองจู กล่าวว่า ฝายกักเก็บน้ำในเมืองเกิดถล่มลงมาก่อนที่ปริมาณน้ำฝนจะแตะระดับที่ต้องมีการจำกัดน้ำที่ไหลผ่านอุโมงค์ส่งน้ำด้วย

ทางการเกาหลีใต้ระดมเจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัย

ประธานาธิบดียูน ซุก ยอล ผู้นำเกาหลีใต้ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเยือนยุโรป ได้เรียกประชุมผ่านระบบวิดีโอคอลล์กับทีมรับมือวิกฤต และออกคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีฮัน ดัก-ซู ระดมสรรพกำลังเพื่อรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้และป้องกันไม่ให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งสูง ซึ่งรวมถึงการระดมเจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัย พร้อมๆ กับสั่งให้กรมอุตุนิยมวิทยาเร่งรายงานพยากรณ์อากาศอย่างรวดเร็วด้วย

ด้านบริษัท โคเรล (Korail) ผู้ให้บริการการรถไฟแห่งชาติเกาหลีใต้ ประกาศระงับการให้บริการรถไฟแบบทั่วไปทั้งหมด และรถไฟความเร็วสูงบางขบวนเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติครั้งนี้

ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้รายงานว่า พื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของประเทศน่าจะประสบภาวะฝนตกหนักด้วยปริมาณน้ำฝนเพิ่มอีกถึง 300 มิลลิเมตรภายในวันอังคารนี้ (18 ก.ค.)