อดีตนายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 68 ปี จากภาวะหัวใจวาย

27 ต.ค. 2566 | 01:27 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ต.ค. 2566 | 01:37 น.

นายหลี่ เค่อเฉียง อดีตนายกรัฐมนตรีของจีน ถึงแก่อสัญกรรมแล้วด้วยวัย 68 ปี เนื่องจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน โดยเขาเป็นผู้มีอำนาจลำดับที่ 2 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน จนกระทั่งเกษียณการทำงานในปีที่แล้ว

สื่อของทางการจีนรายงานว่า นายหลี่ เค่อเฉียง อดีตนายกรัฐมนตรีของจีน ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 68 ปี จากภาวะหัวใจวายฉับพลัน  

รายงานระบุว่า เมื่อวานนี้ (26 ต.ค.66) ระหว่างที่นายหลี่ กำลังพักผ่อนอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ เกิดอาการหัวใจวายและได้รับความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลและถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเวลาเมื่อเวลา 00.01 น.ของวันนี้ (27 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่แพทย์พยายามทุกวิถีทางที่จะยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
 

นายหลี่ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงจากนโยบายเศรษฐกิจเชิงปฏิบัติ มีความเป็นผู้นำที่ทำงานเพื่อผู้ด้อยโอกาส แต่ไม่มีฐานอำนาจใดๆ ในพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทั้งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ยังถูกตรึงให้อยู่ในตำแหน่งสูงสุดในฐานะประธานาธิบดี จนถึงในช่วงวาระสุดท้าย ยังเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพียงคนเดียวที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้จงรักภักดีของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ โดยเขาได้รับมอบหมายให้ควบคุมเศรษฐกิจของจีนในช่วงแรก แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้กลับถูกกีดกันการทำงาน

ทั้งนี้มีรายงานว่า การถึงแก่อสัญกรรมของนายหลี่ เค่อเฉียง มีขึ้นหลังจากเกิดปัญหาร้าวฉานอย่างหนักระหว่างผู้ที่มีอำนาจสูงสุดของจีนคือตัวนายหลี่ เค่อเฉียง กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จนทำให้นายหลี่ เค่อเฉียง ไม่พอใจอย่างมาก และในเดือนพ.ค. 2565 นายหลี่ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจีนในขณะนั้น ได้เรียกประชุมข้าราชการกว่าหนึ่งแสนคน พร้อมประกาศว่า ผู้นำสูงสุดของจีนกำลังนำประเทศชาติไปสู่ความล่มจม โดยเฉพาะนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ทำให้ต้องปิดเมืองเซี่ยงไฮ้เป็นเดือน ประชาชนกว่า 25 ล้านคนถูกล็อกดาวน์ ห้ามออกจากบ้านเป็นเวลานานนับเดือน