ในขณะที่ปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลในฉนวนกาซาขยายออกไป ทุกสายตาจับจ้องมาที่ตะวันออกกลางเพื่อหาสัญญาณที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มภายนอกที่ต้องการเห็นอิสราเอลล้มเหลวในภารกิจทำลายล้างกลุ่มฮามาส แต่พันธมิตรตะวันตกอิสราเอลต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ของ ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ประจำเลบานอน เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น
ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ปราศรัยต่อสาธารณะครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาสเริ่มต้นขึ้น เขากล่าวว่า ทางเลือกทั้งหมดอยู่บนโต๊ะ และวิธีเดียวที่จะป้องกันไม่ให้เกิดสงครามในภูมิภาคคือการหยุดความขัดแย้งในฉนวนกาซา แต่ที่น่าสังเกตคือ ไม่มีการตีกลองสงครามหรือประกาศถึงการยกระดับความรุนแรงในทันที สุนทรพจน์ดังกล่าวเต็มไปด้วยวาทศิลป์ต่อต้านอิสราเอลและต่อต้านสหรัฐอเมริกาอย่างไม่น่าแปลกใจ
ท่ามกลางการปะทะข้ามพรมแดนที่รุนแรงระหว่างกลุ่มนี้และกองทัพอิสราเอล โดยโจมตีพื้นที่ตอนเหนือของอิสราเอลด้วยปืนใหญ่และจรวด ขณะที่สหรัฐฯ เตือนฮิซบอลเลาะห์หลายครั้งแล้วว่าไม่ควรเข้าร่วมการต่อสู้ โดยเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ 2 ลำ รวมถึงเรือยูเอสเอส เจอรัลด์ ฟอร์ด ที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ ถูกส่งไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วยความพยายามที่ชัดเจนในการขัดขวางกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
🔴 “LIVE: Sayyed Hassan Nasrallah, the Secretary General of Lebanon’s Hezbollah resistance movement, delivers speech https://t.co/jr84oCDLZz
— Press TV (@PressTV) November 3, 2023
ความโล่งใจถูกแบ่งปันให้กับคนจำนวนมากในเลบานอน ประเทศเล็กๆ แถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกแห่งนี้ ที่แทบจะไม่สามารถฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจที่สร้างความเสียหายร้ายแรงในปี 2019 วิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองของเลบานอนยังคงดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 แม้ว่าจะช้ากว่าปี 2022 ก็ตาม เนื่องจากขาดความเชื่อมั่นต่อเงินปอนด์เลบานอน (LBP) การปรับค่าเงินดอลลาร์ของเศรษฐกิจจึงเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2023
ส่งผลเสียต่อความมั่นคงทางอาหารของครัวเรือนที่เข้าถึงเงินดอลลาร์สหรัฐได้อย่างจำกัด เลบานอนบันทึกอัตราเงินเฟ้อราคาอาหารที่เลวร้ายที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกในเดือนมิถุนายน 2023 โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าอย่างรวดเร็วของ LBP โดยมีอัตราเงินเฟ้อราคาอาหารที่ระบุอยู่ที่ร้อยละ 280 (YoY) ตามที่รายงานโดยธนาคารโลก
นักวิเคราะห์กล่าวว่ากลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านดูเหมือนถูกยับยั้งในความพยายามที่จะมีส่วนร่วม โดยส่งสัญญาณว่าอาจไม่อยากเห็นสงครามขยายตัว ขณะที่ กองกำลังป้องกันอิสราเอล IDF กล่าวก่อนหน้านี้ว่า อยู่ใน "การเตือนภัยขั้นสูงมาก" ที่ชายแดนติดกับเลบานอน หลังจากผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ใช้คำพูดที่ไม่ค่อยพบเห็นเพื่อยกย่องการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาส
"ฮิซบอลเลาะห์" แตกต่างจาก "ฮามาส" อย่างไร?
กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ก่อตั้งขึ้นในเลบานอนในปี 1982 ในช่วงสงครามกลางเมืองเลบานอนที่ยืดเยื้อยาวนาน 15 ปี เพื่อขับไล่กองกำลังป้องกันอิสราเอลที่ยึดครองเลบานอน โดยได้รับแรงบันดาลใจในการเคลื่อนไหวจากการปฏิวัติอิหร่าน ฮิซบอลเลาะห์มีรัฐมนตรีในรัฐบาลเลบานอนและผู้ร่างกฎหมายในรัฐสภา
ปี 2000 ฮิซบอลเลาะห์ขับไล่กองกำลังอิสราเอลออกจากเลบานอนสำเร็จ แต่ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลยังไม่ยุติ มีการปะทะกันตามแนวชายแดนอยู่บ่อยครั้ง
ฮิซบอลเลาะห์ถูกรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลอิสราเอลขึ้นบัญชีดำว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายไม่ต่างจากกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ โดยเชื่อว่าฮิซบอลเลาะห์อยู่เบื้องหลังการจับตัวประกันชาวอเมริกันหลายครั้ง รวมถึงปฏิบัติการพลีชีพที่สังหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ 241 คน ณ กรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน ในปี 1983
ขณะที่ กลุ่มฮามาส ดำเนินกิจการในฐานะพรรคการเมืองเช่นเดียวกัน ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 ในฉนวนกาซา โดยแยกตัวออกจากสาขาภราดรภาพมุสลิมปาเลสไตน์ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศตะวันตกหลายประเทศ ถือว่าทั้งกลุ่มอิซบอลเลาะห์ และฮามาส เป็นองค์กรก่อการร้าย
ฮิซบอลเลาะห์และฮามาส ถูกระบุว่า ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน แต่ความสามารถทางทหารของฮิซบอลเลาะห์ไปไกลกว่าความสามารถของฮามาส เนื่องจากอิหร่านมอบทั้งอาวุธและเงินให้กับฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มนี้อ้างว่ามีอาวุธที่สามารถโจมตีทุกส่วนของอิสราเอล
แดเนียล บายแมน นักวิจัยอาวุโสของศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการต่างประเทศ กล่าวในการวิเคราะห์ ว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์มีความน่าเกรงขามมากกว่ากลุ่มฮามาส ซึ่งการปฏิบัติการในปัจจุบันกลายเป็นฝันร้ายสำหรับอิสราเอลไปแล้ว
ขุมกำลัง “ฮิซบอลเลาะห์”
ได้รับการสนับสนุนจากคลังจรวดจำนวนมหาศาล ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ากลุ่มอิสลามิสต์นิกายชีอะห์นี้อาจมีจรวดมากกว่า 100,000 ลูก ในปัจจุบัน สอดคล้องกับที่ฮิซบอลเลาะห์กล่าวว่ามีจรวดที่สามารถโจมตีทุกพื้นที่ของอิสราเอล
จรวดโจมตีภาคพื้นดินและขีปนาวุธ
จรวดที่ไม่นำวิถี Unguided rockets ฮิซบอลเลาะห์ในสงครามครั้งสุดท้ายกับอิสราเอลเมื่อปี 2006 กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ได้ยิงประมาณ 4,000 ลูกเข้าไปในอิสราเอล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขีปนาวุธสไตล์คัตยูชาที่ผลิตโดยรัสเซีย มีพิสัยทำการไกลถึง 30 กิโลเมตร
ฮิซบอลเลาะห์มีแบบจำลองของอิหร่าน เช่น จรวด Raad , จรวด Fajr (รุ่งอรุณ) และ จรวด Zilzal (แผ่นดินไหว) ซึ่งมีน้ำหนักบรรทุกที่ทรงพลังกว่าและมีพิสัยการบินไกลกว่าขีปนาวุธสไตล์คัตยูชา
สิ่งนี้ทำให้ดินแดนอิสราเอลอยู่ในขอบเขตของฮิซบุลเลาะห์มากขึ้น และผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า สามารถช่วยให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์โจมตีเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นได้ เช่น โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและสถานที่ทางทหาร
ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง
กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ใช้ขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำทางอย่างกว้างขวางในสงครามปี 2006 ได้ส่งจรวดนำทางอีกครั้งในการสู้รบรอบล่าสุด โดยโจมตีที่มั่นของอิสราเอลบริเวณชายแดน
ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน
ฮิซบอลเลาะห์กล่าวเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ว่าได้ยิงโดรนของอิสราเอลลำหนึ่งเหนือเลบานอนตอนใต้ด้วยขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ นับเป็นครั้งแรกที่ได้ประกาศเหตุการณ์ดังกล่าว
ขีปนาวุธต่อต้านเรือ
ปี 2006 ขีปนาวุธต่อต้านเรือโจมตีเรือรบอิสราเอลที่อยู่ห่างจากชายฝั่ง 16 กม. (10 ไมล์) ส่งผลให้บุคลากรชาวอิสราเอลเสียชีวิต 4 คนและสร้างความเสียหายให้กับเรือลำดังกล่าว
โดรน
โดรนของฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งรวมถึง รุ่น Ayoub และ Mersad ที่ประกอบในประเทศ ส่วนใหญ่ใช้ในการลาดตระเวน โดรนซึ่งสามารถผลิตได้ในราคาถูกและในปริมาณมาก อาจมุ่งเป้าไปที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ระบบ "Iron Dome" โดมเหล็กของอิสราเอล
ขุมกำลัง “ฮามาส”
ที่มาข้อมูล