ไทย-ออสเตรเลีย ทวิภาคีชื่นมื่น เตรียมประชุมสมัยพิเศษร่วมกันในปี 67

17 พ.ย. 2566 | 09:44 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2566 | 09:52 น.

ไทย-ออสเตรเลีย กระชับความสัมพันธ์และเห็นพ้องเพิ่มพูนความร่วมมือทุกด้าน “เศรษฐา”พร้อมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสมัยพิเศษ เพื่อฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย มีนาคมปีหน้า

 

16 พ.ย.2566 เวลา 11.35 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนครซานฟรานซิสโก ซึ่งช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง) ณ ห้องหารือทวิภาคี 1 ศูนย์ประชุมมอสโคนีเซ็นเตอร์ ฝั่งทิศใต้ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบหารือทวิภาคีกับ นายแอนโทนี แอลบาเนซี นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย ในห้วง การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกฯ ยืนยันความพร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสมัยพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลียในปีหน้า (วันที่ 4-6 มีนาคม 2567) ณ นครเมลเบิร์น ซึ่งจะใช้เป็นโอกาสในการหารือกับภาคเอกชนออสเตรเลียเพื่อขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันด้วย โดยฝ่ายไทยพร้อมจะพาภาคเอกชนร่วมคณะไปด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบหารือทวิภาคีกับนายแอนโทนี แอลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย นอกรอบการประชุมเอเปค

ทั้งนี้ ไทยและออสเตรเลียมีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กันมาตั้งแต่ปี 2548 และมีความก้าวหน้ามาก มีการแลกเปลี่ยนและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนที่ใกล้ชิด การท่องเที่ยวเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล และเป็นส่วนสำคัญสำหรับเศรษฐกิจไทย โดยคนออสเตรเลียนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจำนวนมาก ในขณะที่คนไทยก็นิยมท่องเที่ยวออสเตรเลีย เนื่องจากมีความปลอดภัย ทั้งนี้ มีบริษัทชั้นนำย้ายฐานการผลิตมาไทยเป็นจำนวนมาก อาทิ ด้านรถยนต์ไฟฟ้า การตั้งศูนย์ Data Center เป็นต้น รวมถึงจะมาลงทุนในไทยด้วย

ด้านนายกฯ ออสเตรเลียแสดงความยินดี และเชื่อมั่นในการเข้ารับตำแหน่งของนายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทย ทั้งนี้ ออสเตรเลียและไทยถือเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน และไทยถือเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของออสเตรเลียทั้งในระดับทวิภาคีและในกรอบอาเซียน

ผู้นำออสเตรเลียยินดีที่ไทยตอบรับเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสมัยพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย ซึ่งจะมีขึ้นที่ประเทศออสเตรเลียในเดือนมีนาคม 2567

การหารือทวิภาคีไทย-ออสเตรเลีย

ออสเตรเลียมีคนไทยอาศัยอยู่จำนวนมากในภาคส่วนต่างๆ เช่น ภาคธุรกิจ และอาหาร เป็นต้น รวมถึงมีความร่วมมือสถาบันการศึกษาระหว่างกันอย่างดี อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อสูงมากเนื่องจากสถานการณ์ระหว่างประเทศ จึงทำให้สินค้าในประเทศราคาสูงขึ้น และประชาชนได้รับผลกระทบ

โอกาสนี้ นายกฯ ออสเตรเลียยังกล่าวว่า ออสเตรเลียให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลียอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะมีการประชุมสุดยอดสมัยพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย และยินดีที่ผู้นำอาเซียนทุกท่านได้ตอบรับเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ เศรษฐกิจระหว่างออสเตรเลียกับอาเซียนมีความเกื้อหนุนกันอย่างดี ออสเตรเลียมีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือกับไทยในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และในกรอบอาเซียนบนพื้นฐานกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้านอาเซียน-ออสเตรเลีย (ASEAN-Australia Comprehensive Strategic Partnership) นอกจากนี้ นายกฯออสเตรเลียยังได้กล่าวชื่นชมการจัดการประชุมเอเปคปี 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง

ที่ผ่านมาไทยและออสเตรเลีย ได้จัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีทวิภาคีและระดับภูมิภาครวม 3 ฉบับ คือ

  1. ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA)
  2. ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA)
  3. ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งออสเตรเลียหวังว่าทั้งสองประเทศจะนำข้อดี-ข้อเสียจากความตกลงทั้งสามฉบับไปพัฒนาความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนและด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับ ความตกลงการค้าเสรีทวิภาคี ไทย-ออสเตรเลีย หรือ TAFTA ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ 1 ม.ค. 2548 นั้น จะครบรอบ 20 ปีในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งไทยและออสเตรเลียเห็นชอบที่จะจัดกิจกรรมเชิญชวนผู้ประกอบการให้ใช้สิทธิประโยชน์ตามความตกลง TAFTA ให้มากยิ่งขึ้น โดยในเดือน พ.ย. 2566 นี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการดำเนินการเข้าสู่ตลาด (MAIC) เพื่อติดตามประเด็นด้านการเปิดตลาดระหว่างกัน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ความตกลง TAFTA ตอบสนองต่อการค้าโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไป