จับตา "ทะเลแดง" ตึงเครียด เรือสินค้าผวาโจมตีในคลองสุเอช

18 ธ.ค. 2566 | 00:34 น.
อัพเดตล่าสุด :18 ธ.ค. 2566 | 01:52 น.

องค์การคลองสุเอซ (SCA) ของอียิปต์ ประกาศจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลแดงอย่างใกล้ชิด รวมทั้งผลกระทบที่จะมีต่อการสัญจรข้ามคลองสุเอซ หลังจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง ส่งผลให้บริษัทขนส่งสินค้ารายใหญ่ระงับการเดินเรือไปยังภูมิภาคดังกล่าว

 

สถานการณ์การขนส่งสินค้า ใน ทะเลแดง ทวีความตึงเครียดเมื่อ การโจมตีเรือสินค้า ของกลุ่มติดอาวุธในเยเมน ทำให้บริษัทเดินเรือรายใหญ่ตัดสินใจระงับการเดินเรือไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย นายโอซามา ราบี ประธาน องค์การคลองสุเอซ (SCA) ของอียิปต์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.2566 เป็นต้นมา เรือบรรทุกสินค้าจำนวน 55 ลำได้เลี่ยงไปใช้เส้นทางแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) ซึ่งเชื่อมระหว่างยุโรปและเอเชีย แทนการใช้เส้นทาง คลองสุเอซ และนับตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.จนถึงขณะนี้ มีเรือเพียง 2,128 ลำเท่านั้นที่สัญจรผ่านเส้นทางคลองสุเอซ

การประกาศจับตาสถานการณ์ในทะเลแดง มีขึ้นหลังจาก เมอส์ก (Maersk) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่ที่สุดในโลกสัญชาติเดนมาร์ก และ ฮาแพค-ลอยด์ (Hapag-Lloyd) บริษัทเดินเรือชั้นนำของเยอรมนี ประกาศระงับการเดินเรือผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบ (Bab-el-Mandeb Strait) ในทะเลแดงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) เนื่องจากเรือบรรทุกสินค้าของบริษัทเผชิญภัยคุกคามจากการโจมตีของ กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน โดยเมอส์ก ยิบรอลตาร์ (Maersk Gibraltar) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัทเมอส์กได้ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของขีปนาวุธจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ขณะเดินทางจากเมืองซาลาลาห์ของโอมานไปยังเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย

ช่องแคบบับเอลมันเดบ (Bab-el-Mandeb Strait) ในทะเลแดง

จากนั้นในวันเสาร์ที่ 16 ธ.ค. บริษัทขนส่งรายใหญ่ระดับโลกอีก 2 ราย ได้แก่ บริษัทเมดิเตอร์เรเนียน ชิปปิ้ง (MSC) ของอิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ และบริษัทซีเอ็มเอ ซีจีเอ็ม (CMA CGM) ของฝรั่งเศส ประกาศระงับการเดินเรือผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบในทะเลแดงเช่นกัน ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เรือรบของกองทัพสหรัฐได้ยิงสกัดโดรนที่โจมตีเหนือทะเลแดงจำนวน 14 ลำ โดยโดรนเหล่านี้ถูกยิงมาจากพื้นที่ที่กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนยึดครองอยู่

กลุ่มฮูตีระบุว่า การโจมตีเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกดดันให้อิสราเอลยุติการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา หลังกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีพื้นที่ทางภาคใต้ของอิสราเอลในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้อิสราเอลตอบโต้ด้วยการใช้ปฏิบัติการทางทหารที่รุนแรง

ช่องแคบบับเอลมันเดบในทะเลแดงเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการค้าระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ช่องแคบบับเอลมันเดบในทะเลแดงเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการค้าระหว่างประเทศ โดยการค้าโลกต้องพึ่งพาเส้นทางขนส่งเชิงพาณิชย์ผ่านทะเลแดงอยู่ประมาณ 10% ช่องแคบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเรือระหว่างทวีปยุโรปกับทวีปเอเชียมาตั้งแต่โบราณกาลก่อนการขุดคลองสุเอซ โดยจากคาบสมุทรไซนายผ่านทะเลแดง จะต้องผ่านช่องแคบบับเอลมันเดบก่อนเข้าสู่อ่าวเอเดน ทะเลอาหรับ และมหาสมุทรอินเดีย

รายงานข่าวระบุว่า อียิปต์นั้นจำเป็นต้องพึ่งพาค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากเรือที่สัญจรผ่านคลองสุเอซ เนื่องจากค่าธรรมเนียมเหล่านี้เป็นแหล่งรายได้สกุลเงินต่างประเทศสำหรับอียิปต์ ในขณะที่อียิปต์กำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี

ในปีงบประมาณ 2565-2566 รายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมเดินเรือของอียิปต์สูงถึง 9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนหน้านั้นซึ่งอยู่ที่ระดับ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

และก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์ในทะเลแดงครั้งล่าสุดนี้ องค์การคลองสุเอซได้ประกาศแผนปรับขึ้นค่าผ่านทางอีก 5-15% สำหรับเรือที่แล่นผ่านคลองสุเอซ โดยจะเริ่มเก็บค่าผ่านอัตราใหม่ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2567 เป็นต้นไป พร้อมระบุว่า ค่าผ่านทางสำหรับเรือบรรทุกน้ำมันดิบ เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เรือบรรทุกก๊าซปิโตรเลียมเหลว เรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว เรือบรรทุกสารเคมีและเรือบรรทุกของเหลวเทกองอื่นๆ เรือคอนเทนเนอร์ เรือบรรทุกยานพาหนะ เรือสำราญ และหน่วยลอยน้ำพิเศษ จะเพิ่มขึ้น 15%

ส่วนค่าผ่านทางสำหรับเรือสินค้าเทกองแห้ง เรือบรรทุกสินค้าทั่วไป และเรือบรรทุกยานยนต์ จะเพิ่มขึ้น 5% 

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การตัดสินใจของบริษัทเดินเรือขนส่งตู้สินค้ายักษ์ใหญ่ 4 รายจาก 5 อันดับแรกของโลกดังกล่าวมาข้างต้น จะส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้า ต้นทุน และซัพพลายเชนทั้งหมด นอกจากนี้ ต้นทุนทั้งในเรื่องลูกเรือ เชื้อเพลิง และการประกันภัย จะถูกผลักภาระให้กับผู้บริโภค

ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ผลกระทบยังอาจขยายวงกว้างถึงตลาดน้ำมันของโลกและต้นทุนของพลังงานที่ผู้บริโภคต้องแบกรับ