เหยื่อแผ่นดินไหวในจีนเผชิญอากาศเยือกแข็งซ้ำเติม ยอดดับล่าสุดแตะ 134 ศพ

21 ธ.ค. 2566 | 05:40 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ธ.ค. 2566 | 05:51 น.

จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว 6.2 แมกนิจูดในมณฑลกานซูติดเขตชิงไห่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (18 ธ.ค.) ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเยือกแข็ง ยอดเสียชีวิตแตะ 134 ราย ซึ่งสูงสุดในรอบ 9 ปี

 

สถานีโทรทัศน์ CCTV ของทางการจีนรายงานวานนี้ (20 ธ.ค.) ว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นไหว ใน มณฑลกานซูและชิงไห่ ของจีนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (18 ธ.ค.) และยังมีอาฟเตอร์ช็อคอีกหลายครั้งจนถึงเมื่อวันพุธ มีจำนวนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 134 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตในมณฑลกานซู 113 ราย และมณฑลชิงไห่ 21 ราย  ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวนรวมกันเกือบ 1,000 ราย (กานซู 782 ราย ชิงไห่ 186 ราย) มีผู้สูญหาย13 ราย

นอกจากนี้ เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวยังสร้างความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนของประชาชนนับแสนหลังคาเรือน

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในพื้นที่สูงและเป็นหุบเขา ทำให้ทีมกู้ภัยต้องทำงานด้วยความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย อีกทั้งสภาพอากาศในช่วงเวลานี้ ยังหนาวเย็นในระดับเยือกแข็ง ยิ่งต้องเร่งให้ความช่วยเหลือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

สภาพอากาศในมณฑลกานซูของจีนในช่วงเวลานี้ หนาวเย็นในระดับเยือกแข็ง ทีมกู้ภัยต้องนำเต็นท์กันหนาวให้ผู้รอดชีวิตใช้พำนักชั่วคราว

แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้ ถือเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดของจีนนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวในมณฑลยูนนานเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2557 ซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 617 ราย ส่วนเหตุการณ์แผ่นดินไหวในจีนครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในรอบหลายปีและมีการบันทึกไว้ คือ เหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนเมื่อปี 2551 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเกือบ 90,000 คน

ทีมกู้ภัยเร่งช่วยเหลือท่ามกลางอากาศหนาวจัด

ทีมกู้ภัยจำเป็นต้องเร่งมือฝ่าอากาศหนาวจัดต่ำจุดเยือกแข็งเมื่อวันพุธ (20 ธ.ค.) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งนี้ ที่ผู้รอดชีวิตกำลังประสบภัยซ้ำเติมนั่นคือ ปัญหาขาดแคลนที่พักพิงท่ามกลางสภาพอากาศที่รุนแรงของฤดูหนาว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 6.2 แมกนิจูดครั้งนี้ สร้างความเสียหายต่อถนนหนทาง ระบบไฟฟ้าและน้ำประปาในพื้นที่ รวมทั้งยังเกิดดินถล่มหลังแผ่นดินไหว และอาฟเตอร์ช็อค ขนาด 4.0 และ 3.0 อีกหลายครั้งเมื่อวันพุธ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าบ้านเรือนประชาชน 207,000 หลังได้รับความเสียหาย และเกือบ 15,000 หลังพังราบเป็นหน้ากลองที่มณฑลกานซู ซึ่งกระทบกับประชาชน 145,000 คนที่นั่น ไร้ที่อยู่อาศัยในทันที

ผู้รอดชีวิตกำลังประสบภัยซ้ำเติมนั่นคือ ปัญหาขาดแคลนที่พักพิงท่ามกลางสภาพอากาศที่รุนแรงของฤดูหนาว ​​​​​​​

ก่อเกิดความท้าทายหลังแผ่นดินไหว คืออากาศหนาวจัดต่ำจุดเยือกแข็ง วัดได้ที่มณฑลกานซู -15 องศาเซลเซียสในค่ำวันอังคาร (19 ธ.ค.) นับเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับการค้นหาผู้ประสบภัยใต้ซากปรักหักพัง เพราะหากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที พวกเขาอาจมีชีวิตรอดได้เพียง 5-10 ชั่วโมงภายใต้อากาศหนาวจัดเช่นนี้

รอยเตอร์รายงานว่า แม้ทางการจีนจะจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ ทั้งเต็นท์ เตียง ผ้าห่ม และอาหาร ให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ภัยพิบัติครั้งนี้ แต่ผู้ที่สูญเสียบ้านเรือนจากแผ่นดินไหวก็มีทางเลือกไม่มากนัก นอกจากมารวมตัวกันกลางทุ่งเพื่อก่อไฟเผาฟางสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายท่ามกลางอากาศหนาวเย็นจัด บ้างก็ใช้ชีวิตในรถยนต์เป็นที่นอน เนื่องจากเต็นท์ที่ทางการจัดหาให้ไม่เพียงพอ และต้องเสียสละเต็นท์ให้กับเด็กและผู้สูงอายุก่อน

ทั้งนี้ แผ่นดินไหวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในมณฑลกานซู ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในช่วงหลายทศวรรษมานี้ คือเมื่อปี 2551 ที่มณฑลเสฉวน คร่าชีวิตประชาชนหลายหมื่นคนดังกล่าวมาแล้วข้างต้น

เหยื่อแผ่นดินไหวในจีนเผชิญอากาศเยือกแข็งซ้ำเติม ยอดดับล่าสุดแตะ 134 ศพ

เทศกาลแห่งแผ่นดินไหว  

นอกจากแผ่นดินไหวที่ประเทศจีนเมื่อวันจันทร์ซึ่งยังมีอาฟเตอร์ช็อคมาถึงวานนี้ เมื่อวันพุธ (20 ธ.ค.) ยังมีแผ่นดินไหว 5.7 แมกนิจูดที่หมู่เกาะแซนด์วิชใต้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย โดยศูนย์วิจัยธรณีศาสตร์ของเยอรมนี (GFZ) รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหว 5.7 แมกนิจูดที่หมู่เกาะแซนด์วิชใต้ ซึ่งเป็นดินแดนของอังกฤษที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อเวลา 19.09 น.ของวันที่ 20 ธ.ค. ตามเวลาไทย และมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึก 109.1 กิโลเมตร โดยมีพิกัดอยู่ที่ 56.15 ละติจูดองศาใต้ และ 27.77 ลองจิจูดองศาตะวันตก แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ในวันเดียวกัน ยังมีรายงานเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.0 แมกนิจูดที่ประเทศเปรูในอเมริกาใต้ โดยแผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.11 น.ตามเวลาไทย และมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึก 80.4 กิโลเมตร โดยมีพิกัดอยู่ที่ 15.99 ละติจูดองศาใต้ และ 72.55 ลองจิจูดองศาตะวันตก ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน