นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ หารือทวิภาคี กับนางมีรยานา สปอลจาริก เอกเกอร์ (Mirjana Spoljaric Egger) ประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) วานนี้ (16 ม.ค.) ในระหว่างเข้าร่วม การประชุม World Economic Forum ประจำปี 2024 ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมด้วย
ทั้งสองฝ่ายหารือแนวทางขยายความร่วมมือระหว่างกัน โดยรองนายกรัฐมนตรีฯ ได้ย้ำว่า ไทยยินดีที่เป็นที่ตั้งสำนักงานระดับภูมิภาคของ ICRC และจะร่วมให้การสนับสนุนด้านมนุษยธรรมต่าง ๆ ในภูมิภาคอย่างแข็งขัน โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมข้ามพรมแดนแก่เมียนมาที่ไทยให้ความสำคัญอย่างมาก และพร้อมมีบทบาทที่สร้างสรรค์ อีกทั้งพร้อมสนับสนุนสปป.ลาวในฐานะประธานอาเซียน เพื่อผลักดันให้อาเซียนกลับมามีบทบาทนำมากขึ้นในเรื่องนี้ โดยส่งเสริมการพูดคุยและความปรองดองเพื่อนำไปสู่สันติภาพและความมั่นคงทั้งในเมียนมาและภูมิภาค
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล-กาซา โดยเห็นพ้องให้เรียกร้องให้มีการเจรจาหยุดยิงเพื่อสามารถส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปถึงกลุ่มคนที่ต้องการ รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้ถือโอกาสนี้ขอให้ ICRC คงการสนับสนุนการช่วยเหลือตัวประกันไทยอีก 8 คนที่เหลืออยู่ให้ได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด
ในวันเดียวกัน รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ยังได้ร่วมหารือสถานการณ์ในเมียนมาในวงเสวนา Diplomacy Dialogue on Myanmar ในห้วงการประชุม WEF 2024 โดยผู้เข้าร่วมประชุมเป็นผู้แทนระดับสูงจากภูมิภาคและหน่วยงานระหว่างประเทศที่ได้รับเชิญ โดยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมด้วย
นายปานปรีย์กล่าวว่า ไทยจะมีบทบาทเชิงรุกและสร้างสรรค์ ทั้งร่วมกับอาเซียนและได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมา และหุ้นส่วนต่าง ๆ ของอาเซียน เพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเมียนมา
พร้อมกันนี้ ได้ย้ำถึงความจำเป็นที่ทุกฝ่ายในเมียนมาจะมีส่วนร่วมในการเจรจาที่มีความหมายเพื่อให้นำไปสู่ความปรองดองและทางออกทางการเมืองที่สันติ
“สิ่งแรกที่ไทยจะดำเนินการในทันที คือการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามที่เมียนมาต้องการ โดยเฉพาะข้อริเริ่มในการยกระดับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมาตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา” รองนายกฯ กล่าว และยังระบุว่า ไทยและเมียนมาอยู่ระหว่างหารือรายละเอียดในการส่งมอบความช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ และโปร่งใส รวมทั้งการเข้าถึงประชาชนเมียนมาที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง