ไอเอสลั่น เอาคืนปูติน หลังรัสเซียเผยคลิปซ้อมผู้ต้องหากราดยิงงานคอนเสิร์ต

26 มี.ค. 2567 | 03:24 น.
อัปเดตล่าสุด :26 มี.ค. 2567 | 04:28 น.

กลุ่มติดอาวุธไอเอสเดือด ประกาศจะเอาคืนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนรัสเซียโดยทั่วไปด้วย หลังมีการเผยแพร่ภาพชาย 4 คนที่เป็นผู้ต้องหาก่อเหตุกราดยิงในงานคอนเสิร์ตชานกรุงมอสโก โดนซ้อมสาหัส

กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ที่ประกาศตัวเป็นผู้ก่อ เหตุกราดยิง และวางเพลิงงานคอนเสิร์ตที่ครอคัส ซิตี ฮอลล์ ชานกรุง มอสโก ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่าร้อยคน ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (25 มี.ค.) ประกาศลั่นจะตอบโต้ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำ รัสเซีย และทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนรัสเซียโดยทั่วไปด้วย หลังจากที่ทางกลุ่มได้เห็นคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางสื่อต่างๆว่า ผู้ต้องสงสัยรวมทั้งมือปืน 4 คนที่ถูกจับกุมถูกเจ้าหน้าที่รัสเซียทำร้ายร่างกาย หน้าตาปูดบวมและมีแผลหรือรอยฟกช้ำเห็นได้ชัดเจน

บางคลิปยังแสดงให้เห็นทหารรัสเซียล้อมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุรายหนึ่งเอาไว้และตัดใบหู โดยในคลิปวิดิโอดังกล่าว เป็นภาพของชายคนหนึ่งซึ่งภายหลังได้รับการระบุชื่อว่า นายราชาบาลีโซดา วัย 30 ปี เป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุของกลุ่มไอเอส กำลังหลบอยู่หลังต้นไม้ในป่า หลังจากนั้น ภาพแสดงให้เห็นว่า เขาถูกทหารรัสเซียเข้าล้อมกรอบและจับกุม โดยขณะน้ัน นายราชาบาลีโซดากำลังร้องไห้ และตะโกนขอชีวิต ขณะที่ทหารรัสเซียตีเขาด้วยด้ามปืน

ทั้งนี้ หลังถูกจับกุม ชายคนดังกล่าวก็ได้ปรากฏตัวต่อศาล โดยเห็นได้ว่าที่หูด้านขวาของเขามีผ้าพันแผลปิดอยู่

ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย

เนื้อหาแถลงการณ์ของกลุ่มไอเอสที่เผยแพร่เมื่อจันทร์ (25 มี.ค.) ระบุว่า "ถึงพวกรัสเซียที่โหดร้าย รวมทั้งปูติน จงระวังตัวไว้ให้ดี อย่าคิดว่าเราไม่มีศักยภาพพอที่จะล้างแค้นให้กับพี่น้องของเรา เราพิสูจน์ให้เห็นแล้วกับเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์"

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวต่อสื่อเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาทราบว่า “กลุ่มมุสลิมสุดโต่ง” เป็นผู้ก่อเหตุโจมตีงานคอนเสิร์ตที่โครคัส ซิตี้ ฮอลล์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 มี.ค.) แต่ก็ยังพยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์ดังกล่าวเข้ากับยูเครน โดยระบุว่า มือปืนทั้ง 4 ถูกจับกุมขณะกำลังพยายามหลบหนีเข้าสู่ยูเครน

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ทางการรัสเซียได้ตั้งข้อหา 4 มือปืนซึ่งเป็นชายสัญชาติทาจิกิสถานที่พักอาศัยอยู่ในรัสเซีย ว่าต้องสงสัยร่วมกันก่อเหตุโจมตีศูนย์จัดแสดงคอนเสิร์ต ครอคัส ซิตี ฮอลล์ ชานกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 143 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 100 ราย เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา

สื่อต่างประเทศเผยแพร่ภาพ 4 ผู้ต้องหาถูกซ้อมจนมีรอยฟกช้ำ บวม และบาดแผลตามร่างกาย (ภาพสำนักข่าวทาสส์)

ทางการรัสเซียเผยแพร่รายชื่อบุคคลทั้ง 4 ประกอบด้วยนายดาเลอร์จอน มีร์โซเยฟ นายไซดาครามิ ราชาบาลิโซดา นายชัมซิดิน ฟาริดูนิ และนายมูฮัมหมัดโซบีร์ เฟย์ซอฟ ซึ่งจากภาพวิดีโอที่มีการเผยแพร่แสดงให้เห็นผู้ต้องสงสัย 3 คนถูกปิดตาระหว่างเดินเข้าไปในศาลแขวงเขตบาสมานนีของกรุงมอสโก ส่วนอีก 1 คนคือนายเฟย์ซอฟนั่งอยู่บนรถเข็น และทั้ง 4 คน มีร่องรอยบาดแผลตามร่างกาย และใบหน้าก็มีรอยฟกช้ำและบวมปูด

ศาลออกแถลงการณ์เผยแพร่ผ่านบัญชีโซเชียลมีเดีย “เทเลแกรม” ระบุว่า นายมีร์โซเยฟเป็นพลเมืองชาวทาจิกิสถานและให้การ “รับสารภาพ” ทั้งหมด ขณะที่นายราชบาลิโซดายอมรับผิดเช่นกัน แต่ไม่ชี้ชัดว่าผู้ต้องสงสัยอีกสองคนรับสารภาพด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ ข่าวระบุว่า บุคคลทั้งสี่ถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรัสเซียบุกเข้าจับกุม ระหว่างบุคคลเหล่านี้พยายามหลบหนีข้ามชายแดนไปยังยูเครน

หลังการก่อเหตุโจมตีงานคอนเสิร์ต กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) แถลงผ่านบัญชีเทเลแกรมของทางกลุ่มว่า การโจมตีครั้งนี้ เป็นฝีมือของสมาชิกไอเอสในโคราซาน หรือไอเอส-เค (IS-K) พร้อมโพสต์คลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นเหตุการณ์ในช่วงที่กลุ่มมือปืนกำลังกราดยิงเหยื่อในครอคัส ซิตี ฮอลล์

ขณะที่รัสเซียพยายามอ้างโดยไม่มีหลักฐานว่า ยูเครนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งนี้ ซึ่งทำให้ทางการยูเครนออกมาปฏิเสธทันที โดยยืนกรานว่า ยูเครนไม่เกี่ยวข้อง และไม่เคยใช้วิธีการของผู้ก่อการร้าย  

เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้หลายเมืองในรัสเซียเพิ่มมาตรการรักาษความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้น แม้กระทั่งในต่างประเทศ รวมทั้งฝรั่งเศส รัฐบาลได้ประกาศยกระดับมาตรการเตือนภัยความมั่นคงสู่ขั้นสูงสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 มี.ค.) หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีงานคอนเสิร์ตในรัสเซีย

โดยนายแกเบรียล อัททาล นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ได้ประกาศการตัดสินใจดังกล่าวบนเเพลตฟอร์ม X ระบุว่า ได้พิจารณาเหตุการณ์บนพื้นฐานข้อมูลที่ว่า กลุ่มเครือข่ายของรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้อ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีที่เกิดขึ้นในรัสเซีย จึงตัดสินใจเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพราะฝรั่งเศสเอง เคยถูกโจมตีโดยกลุ่มไอเอส ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งรวมถึงการสังหารหมู่ที่โรงละครในกรุงปารีสเมื่อปี 2015 ซึ่งครั้งนั้น กลุ่มหัวรุนเเรงไอเอสกระหน่ำยิงเหยื่อและจับตัวประกันขณะที่ผู้คนร่วมงานคอนเสิร์ต

นอกจากนี้ กองทัพฝรั่งเศสยังได้ต่อสู่กับกลุ่มรัฐอิสลามในตะวันออกกลางและแอฟริกา ทำให้อยู่ในสถานะเป็นอริกันอยู่

การเฝ้าระวังในระดับสูงสุดของฝรั่งเศสนั้น มีความจำเป็นเนื่องจากในวันที่ 26 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ฝรั่งเศสกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก 2024 ซึ่งในพิธีเปิดจะมีการล่องเรือในแม่น้ำแซน และคาดว่าจะมีคนร่วมชมบริเวณริมน้ำจำนวนมากด้วย