สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า วันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค.67 ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ประกาศแผนเสนอรายชื่อทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ 7 รายการ และทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ 3 รายการ เพื่อขึ้นบัญชีรายชื่อมรดกโลกของยูเนสโก (UNESCO)
สถานที่ 7 แห่งที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ ได้แก่ อดีตเรือนจำเอ็ม-13 (M-13)/พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง/ศูนย์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เจืองแอ็ก วัดบันทายฉมาร์ สถานที่ตั้งของอังกอร์เบอเรยและพนมฎา โบราณสถานภูเขาพนมอูดง ปราสาทพระขรรค์กำปงสวาย วัดเบ็งเมเลีย และอุทยานเทือกเขาพนมกุเลน
ส่วนทรัพย์สินอีก 3 รายการที่วางแผนยื่นเสนอเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ได้แก่ สงกรานต์กัมพูชา กรอมา (Krama) ผ้าพันคอที่ทอแบบดั้งเดิม และประเพณีการแต่งงานแบบเขมร
"เราจะเสนอรายชื่อเหล่านี้เป็นมรดกโลกของยูเนสโก เพื่อให้ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของบรรพบุรุษของเราได้รับการยอมรับและอนุรักษ์ในระดับสากล" ฮุนมาเนตกล่าว
พร้อมเสริมว่าปกติแล้วการขึ้นทะเบียนจะใช้เวลาเกือบสองปี และแต่ละประเทศสามารถยื่นเสนอรายชื่อเป็นมรดกโลกของยูเนสโกได้ปีละ 1 รายการเท่านั้น
กัมพูชาจะยื่นเอกสารเพื่อขึ้นทะเบียนสงกรานต์กัมพูชาลงในรายการมรดกที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโกในปี 2025 และคาดว่าจะได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในปี 2026
สงกรานต์เป็นคำภาษาสันสกฤตที่ใช้เรียกวันปีใหม่ตามปฏิทินทางพุทธศาสนา ซึ่งเทศกาลนี้มีการเฉลิมฉลองในหลายประเทศที่นับถือพุทธศาสนาในเอเชีย อาทิ กัมพูชา ไทย ลาว และเมียนมา