โลกประณามอิสราเอลถล่มเดือดกาซาครั้งใหม่ สังหารจนท.บรรเทาทุกข์ 7 ราย

02 เม.ย. 2567 | 23:15 น.
อัปเดตล่าสุด :02 เม.ย. 2567 | 23:57 น.

องค์กรความช่วยเหลือด้านอาหาร World Central Kitchen (WCK) ซึ่งเป็นองค์กรบรรเทาทุกข์ไม่แสวงผลกำไร เผยการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลล่าสุดในกาซา ทำให้เจ้าหน้าที่ขององค์กรต้องเสียชีวิตถึง 7 คนทำให้ WCK ต้องยุติการทำงานในฉนวนกาซาทั้งหมดแล้ว

แถลงการณ์ของ องค์กรความช่วยเหลือด้านอาหาร World Central Kitchen (WCK) เมื่อวันอังคาร (2 เม.ย.) ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจขนส่งความช่วยเหลือด้านอาหารน้ำหนัก 100 ตันไปยังโกดังแห่งหนึ่งในเขตเดอีร์ อัล-บาลาห์ ของ ฉนวนกาซา ก่อนที่รถหุ้มเกราะสองคันที่มีเครื่องหมายขององค์กรแห่งนี้อย่างชัดเจน จะถูกโจมตีจากทางอากาศโดย กองทัพอิสราเอล

WCK เผยว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเกิดขึ้นแม้ว่าทางองค์กรได้ประสานงานกับอิสราเอลเกี่ยวกับภารกิจการขนส่งความช่วยเหลือครั้งนี้ไปแล้วก็ตาม

รายงานข่าวเผยว่า เจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ มีทั้งชาวปาเลสไตน์ พลเมืองออสเตรเลีย โปแลนด์ อังกฤษ และผู้ถือสองสัญชาติคือ อเมริกันและแคนาดา รวมอยู่ด้วย องค์กรจันทร์เสี้ยวแดงแห่งปาเลสไตน์ (Palestinian Red Crescent Society) ซึ่งเป็นหน่วยงานกาชาดสากลที่ปฏิบัติงานในประเทศมุสลิม ระบุว่า ทั้ง 7 ศพได้ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเพื่อเตรียมขนย้ายออกจากเขตฉนวนกาซาผ่านทางพรมแดนเมืองราฟาห์แล้ว

รถของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ที่ถูกโจมตี มีเครื่องหมายขององค์กรติดแสดงไว้อย่างชัดเจน

เจ้าหน้าที่ของ WCK เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ 7 รายด้วยกัน

เอริน กอร์ ซีอีโอของ WCK กล่าววานนี้ (2 เม.ย.)ว่า การโจมตีครั้งนี้ "ไม่อาจให้อภัยได้" และนี่ไม่ใช่การโจมตีต่อ WCK เท่านั้น แต่ยังเป็นการทำร้ายองค์กรความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่าง ๆ ในกาซา ที่พยายามยื่นมือเข้าไปช่วยในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด จากการใช้ “อาหาร” เป็น “อาวุธ” ในการทำสงคราม

ด้านนายโฮเซ่ แอนเดรส ผู้ก่อตั้ง WCK ได้โพสต์แสดงความเสียใจต่อผู้ที่สูญเสียในการโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้ว่า "รัฐบาลอิสราเอลต้องยุติการโจมตีโดยไม่เลือกหน้า หยุดการจำกัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม หยุดการสังหารประชาชนและเจ้าหน้าที่ความช่วยเหลือ และหยุดการใช้อาหารเป็นอาวุธ"

อิสราเอลยอมรับ “ไม่ได้ตั้งใจ”

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกมายอมรับว่า เขาได้รับทราบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว และว่า “กองทัพอิสราเอลได้ก่อเหตุโจมตีโดยไม่เจตนา...ต่อผู้บริสุทธิ์”

ผู้นำอิสราเอลกล่าวในวิดีโอแถลงการณ์ว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ในช่วงไม่กี่วันมานี้ มีเหตุการณ์ที่เป็นโศกนาฏกรรมที่กองทัพของอสราเอลได้ “ทำร้าย” ผู้ที่ไม่ใช่นักรบติดอาวุธในฉนวนกาซา “โดยไม่ได้ตั้งใจ" พร้อมยังย้ำว่า

“สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ในภาวะสงคราม เรากำลังเดินหน้าสอบสวนและติดต่อทางหน่วยงานรัฐบาลทั้งหลาย เราจะทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อีก”

โลก “รับไม่ได้” รุมประณามอิสราเอล

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรกับอสราเอลตลอดมา ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุการณ์นี้โดยเร็ว ขณะที่นายเอเดรียน วัตสัน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐ"หัวใจแตกสลาย" เมื่อได้ยินข่าวนี้ และว่า เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมต้องได้รับการคุ้มครองขณะทำการขนส่งความช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่กำลังประสบความเดือดร้อนอย่างยิ่ง “สหรัฐขอให้ทางการอิสราเอลตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ในทันที"

ด้านนายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวเมื่อวันอังคาร (2 เม.ย.) ว่า ลาลซอว์มิ "โซมิ" แฟรงก์คอม ซึ่งเป็นพลเมืองชาวออสเตรเลีย คือหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของ WCK ที่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้ เขากล่าวว่า ออสเตรเลียคาดหวังว่าจะมีผู้แสดงความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว ซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมที่ “ไม่ควรเกิดขึ้นและไม่อาจยอมรับได้"

กลุ่มฮามาสซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการโจมตีของอิสราเอล ได้ออกแถลงการณ์ประณามอิสราเอลเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีครั้งล่าสุดที่ทำให้เจ้าหน้าที่ 7 รายของ WCK  เสียชีวิตว่า การโจมตีดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อ “ทำการก่อการร้าย” ต่อเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ และขัดขวางมิให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรม

"เราขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประณามการกระทำที่ป่าเถื่อนดังกล่าว และดำเนินการเพื่อยุติการก่อคดีอาชญากรรมของอิสราเอลและการโจมตีต่อประชาชนในฉนวนกาซา" แถลงการณ์ระบุของฮามาสระบุ

สภาพอาคารแผนกกงสุลของสถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย ที่ถูกถล่มจนราบคาบจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล

ก่อนหน้านี้เพียงวันเดียว (1 เม.ย.) แผนกกงสุลของสถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย ก็เพิ่งถูกถล่มจนราบคาบโดยการโจมตีทางอากาศทำให้มีนักการทูตและเจ้าหน้าที่กองทัพของอิหร่านหลายคนถูกสังหารในเหตุการณ์นี้ด้วย ซึ่งสื่ออิหร่านและซีเรียต่างรายงานว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของอิสราเอล ถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งในตะวันออกกลางอย่างชัดเจน

การกระทำของอิสราเอล ทำให้นายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ออกมาระบุว่า นายกูเตอร์เรสกล่าวประณามการกระทำของอิสราเอลที่โจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย "ท่านเลขาธิการฯ กล่าวย้ำถึงการเคารพหลักการทางการทูตและการปกป้องสถานกงสุลรวมทั้งบุคลากรตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ"

อิหร่านประกาศจะตอบโต้อิสราเอลอย่างสาสมกับการสูญเสียของอิหร่านในครั้งนี้ ซึ่งรายงานข่าวระบุว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตรวมถึงนายโมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดี ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่านด้วย

ทั้งนี้ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขกาซาเปิดเผยว่า มีประชาชนในฉนวนกาซาเสียชีวิตจำนวนทั้งสิ้น 71 รายจากการโจมตีของอิสราเอล ขณะที่ยอดผู้บาดเจ็บมีจำนวน 102 ราย

นอกจากนี้ หากนับตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 เป็นต้นมา และอิสราเอลเริ่มเปิดฉากโจมตีเขตฉนวนกาซาเพื่อถล่มฐานปฏิบัติการของกลุ่มฮามาส ทำให้ประชาชนในฉนวนกาซาเสียชีวิตจากสถานการณ์สงครามรวม 32,916 ราย ขณะที่บาดเจ็บรวม 75,494 ราย

เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้มี "มติ 2728" (ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุน 14 เสียง ขณะที่สหรัฐงดออกเสียง โดยไม่ได้ใช้สิทธิยับยั้ง) เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซาช่วงเดือนถือศีลอดของชาวมุสลิม และเรียกร้องการปล่อยตัวประกันโดยไม่มีเงื่อนไข รวมทั้งการเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมหลั่งไหลเข้าสู่เขตกาซาได้อย่างเร่งด่วนเพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่ชาวปาเลสไตน์ที่อดอยากหิวโหยเพราะภัยสงคราม แต่เห็นได้ชัดว่า อิสราเอลไม่ได้นำพามติดังกล่าว และยังคงเปิดฉากโจมตีในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้