สันนิบาตอาหรับ หรือ League of Arab States ซึ่งประกอบด้วยชาติอาหรับ 22 ประเทศ มีมติออก "ปฏิญญามานามา" ในวันนี้ (17 พ.ค.) เรียกร้องให้ สหประชาชาติ (UN) ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปใน ฉนวนกาซา จนกว่าจะมีการดำเนินการตามแนวทางแก้ไขแบบสองรัฐเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่าง อิสราเอล และ ปาเลสไตน์
นอกจากนี้ ปฏิญญาดังกล่าวยังได้เรียกร้องให้มีการยุติการสู้รบในฉนวนกาซาโดยทันที ขณะที่กล่าวหาอิสราเอลว่าเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาหยุดยิง
ทั้งนี้ สถานการณ์สู้รบในกาซายังคงทวีความรุนแรง โดยอิสราเอลยังระดมโจมตีเข้าไปใจกลางเมืองจาบาลิยาทางตอนเหนือของกาซาเมื่อวันพฤหัสบดี (16 พ.ค.) และปะทะกับระเบิดและจรวดต่อต้านรถถังจากฝั่งกลุ่มปาเลสไตน์ติดอาวุธฮามาส ที่กระจุกตัวในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่อิสราเอลยังโจมตีเมืองราฟาห์ทางตอนใต้อย่างต่อเนื่อง
สงครามอิสราเอล-ฮามาสดำเนินมากว่า 7 เดือนแล้ว ความต้องการของนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลคือการกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก แต่นั่นก็เป็นเป้าหมายที่บรรลุได้ยากยิ่ง เนื่องจากกลุ่มติดอาวุธฮามาสและกลุ่ม “อิสลามิก จิฮาด” ซึ่งเป็นพันธมิตร ได้ต่อสู้โต้กลับในฉนวนกาซาทั้งตอนเหนือและตอนใต้ โดยพวกเขาใช้อุโมงค์ใต้ดินในพื้นที่เป็นฐานที่มั่น
นายโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลกำลังทำให้ฮามาสอ่อนแอลง และจะมีการส่งทหารเพิ่มเติมเข้าไปในเมืองราฟาห์ โดยเขากล่าวว่า ในเมืองดังกล่าวมีอุโมงค์ใต้ดินมากมายหลายแห่งที่ถูกทำลายไปแล้ว
อิสราเอลระบุว่า ฮามาสมีกองกำลัง 4 กลุ่มในเมืองราฟาห์ที่มีตัวประกันที่ฮามาสจับตัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 แต่การบุกราฟาห์ของอิสราเอลกำลังเผชิญแรงกดดันทั้งจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และสหประชาชาติ (UN) ที่เรียกร้องไม่ให้บุกรุกเมืองที่มีชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
กระทรวงสาธารณสุขกาซาที่บริหารงานโดยฮามาส เปิดเผยว่า มีประชาชนในฉนวนกาซาเสียชีวิต 39 รายจากการโจมตีของอิสราเอลในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (16 พ.ค.) ขณะที่บาดเจ็บจำนวน 64 ราย
นอกจากนี้ หากนับตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในวันที่ 7 ต.ค.2566 มีประชาชนในฉนวนกาซาเสียชีวิตแล้วรวม 35,272 ราย ขณะที่บาดเจ็บ 79,205 ราย ทั้งยังเกิดภาวะขาดแคลนอาหารทั่วพื้นที่เนื่องจากความช่วยเหลือจากต่างประเทศถูกปิดกั้นโดยความรุนแรงและการปิดด่านเคเรม ชาลอมรวมทั้งด่านราฟาห์
อย่างไรก็ตาม ทางอิสราเอลกล่าวว่า ฮามาสเป็นฝ่ายเปลี่ยนเส้นทางส่งความช่วยเหลือและอิสราเอลต้องการกำจัดกลุ่มติดอาวุธนี้ให้สิ้นซาก และต้องการปลดปล่อยตัวประกันอีก 128 ชีวิตให้เป็นอิสระจากฮามาส
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในอีกด้านหนึ่ง สหรัฐได้ทอดสมอบริเวณท่าเรือชั่วคราวที่หาดในกาซา เมื่อวันพฤหัสบดี (16 พ.ค.) เพื่อเพิ่มการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าไปในกาซา แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่ากระบวนการจัดส่งจะเป็นอย่างไร เมื่อพิจารณาจากความท้าทายในการส่งความช่วยเหลือของสหประชาชาติและหน่วยบรรเทาทุกข์ทั้งหลายในช่วงหลายเดือนมานี้
แหล่งข่าวฝั่งอียิปต์ เผยกับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลอียิปต์ที่กังวลเรื่องการอพยพครั้งใหญ่จากกาซาเข้ามายังอียิปต์ ได้ปฏิเสธคำขอของอิสราเอลในการขอความร่วมมือในการเปิดด่านข้ามแดนราฟาห์ที่อิสราเอลปิดไปเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนการหารือข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันยังคงเผชิญ “ทางตัน” ในการหาหนทางยุติสงครามในฉนวนกาซา โดยนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส กล่าวว่า ฮามาสที่ปกครองกาซามาตั้งแต่ปี 2550 ควรต้องมีบทบาทในกาซาต่อไป ขณะที่ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซีซี แห่งอียิปต์ ที่เป็นตัวกลางเจรจาครั้งนี้ร่วมกับกาตาร์และสหรัฐอเมริกามองว่า อิสราเอลยังไม่ลงมือทำสิ่งใดมากพอให้เห็นว่าต้องการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง