ย้อนตำนาน Swing States จุดเปลี่ยนผลคะแนนเลือกตั้งประธานาธบดีสหรัฐฯ

30 ก.ย. 2567 | 23:00 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ย. 2567 | 05:39 น.

ย้อนตำนาน Swing States คืออะไร เพราะเคยสร้างประวัติศาสตร์พลิกโผผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลายครั้ง เตรียมจับตา"โดนัลด์ ทรัมป์" หรือ "กมลา แฮร์ริส" จะได้รับชัยชนะในครั้งนี้

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 วันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ (ตามเวลาไทย) การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่จับตามองจากทั่วทุกมุมโลกโดยเฉพาะผู้เข้าชิงคนสำคัญอย่าง "โดนัลด์ ทรัมป์" และ "กมลา แฮร์ริส" ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากไม่เพียงแต่ต่อชาวอเมริกันเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปทั่วโลก

โดยหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ "การเลือกตั้งสหรัฐฯ" เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความไม่แน่นอน คือการมีอยู่ของ "Swing States" หรือรัฐที่ผลการเลือกตั้งสามารถพลิกไปมาได้ตามความนิยมในช่วงเวลานั้น

การเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา Swing States มีบทบาทสำคัญในการตัดสินผู้ชนะตำแหน่งประธานาธิบดี โดยรัฐเหล่านี้สามารถทำให้การคาดการณ์ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง

ย้อนตำนาน Swing States จุดเปลี่ยนผลคะแนนเลือกตั้งประธานาธบดีสหรัฐฯ

 

  • ปี 2543 รัฐฟลอริดาและการขัดแย้งผลการเลือกตั้งของบุช-กอร์

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี พ.ศ. 2543 ระหว่าง "จอร์จ ดับเบิลยู บุช" และ "อัล กอร์" ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ Swing States กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ การโต้แย้งผลคะแนนในรัฐฟลอริดาและการนับคะแนนที่ยืดเยื้อส่งผลให้ศาลสูงสหรัฐฯ ต้องเข้ามาตัดสิน ในที่สุด บุชได้รับชัยชนะในรัฐฟลอริดาด้วยผลต่างเพียง 537 คะแนน และส่งผลให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วประเทศ

  • ปี 2553 ประวัติศาสตร์ของรัฐฟลอริดาในยุคโอบามา

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ของ "บารัค โอบามา" จากพรรคเดโมแครต แข่งกับ "มิตต์ รอมนีย์" จากพรรครีพับลิกัน โดยรัฐฟลอริดาเป็นหนึ่งใน Swing States ที่มีความสำคัญ โอบามาสามารถชนะในฟลอริดาด้วยคะแนนที่เบียดกันเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งชัยชนะนี้ทำให้โอบามาได้รับ 29 คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) และส่งผลให้ชนะการเลือกตั้งทั่วประเทศ

 

  • ปี 2559 รัฐเพนซิลเวเนีย โอไฮโอ และวิสคอนซิน กับชัยชนะของทรัมป์

หนึ่งในปรากฏการณ์ที่สร้างความตกตะลึงให้กับผู้สังเกตการณ์ทั่วโลกคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี พ.ศ. 2559 ที่ "โดนัลด์ ทรัมป์" เอาชนะ "ฮิลลารี คลินตัน" ได้อย่างไม่คาดคิด โดยรัฐเพนซิลเวเนีย โอไฮโอ และวิสคอนซิน ซึ่งเป็น Swing States สำคัญ ล้วนมีผลคะแนนที่พลิกผัน ทรัมป์สามารถเอาชนะได้ในรัฐเหล่านี้ทั้งที่โพลหลายสำนักคาดการณ์ว่าคลินตันจะเป็นผู้ชนะ การพลิกโผนี้เป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่ชัยชนะของทรัมป์ในปีนั้น

  • ปี 2563 ชัยชนะของไบเดนและความหวังใหม่ในรัฐมิชิแกน

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี พ.ศ. 2563 ถือเป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญระหว่าง "โจ ไบเดน" และ "โดนัลด์ ทรัมป์" โดยรัฐมิชิแกนซึ่งเป็นหนึ่งใน Swing States ที่สำคัญได้กลับมาสนับสนุนพรรคเดโมแครตอีกครั้ง หลังจากที่ทรัมป์เคยคว้าชัยไปในปี พ.ศ. 2559 ไบเดนสามารถเอาชนะในรัฐนี้ด้วยคะแนนที่มากกว่า และชัยชนะในรัฐมิชิแกนเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่นำเขาสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี

ย้อนตำนาน Swing States จุดเปลี่ยนผลคะแนนเลือกตั้งประธานาธบดีสหรัฐฯ

บทบาทของ Swing States ในการเลือกตั้งในปีนี้

เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ที่กำลังจะมาถึง "Swing States" ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นที่จับตามอง ไม่ว่าจะเป็นรัฐฟลอริดา เพนซิลเวเนีย หรือวิสคอนซิน ทุกฝ่ายต่างคาดการณ์ว่าผู้สมัครทั้งสองฝ่ายจะต้องทุ่มเทเพื่อครอบครองชัยชนะในรัฐเหล่านี้ เพราะผลการเลือกตั้งอาจขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใน Swing States เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

การพลิกผันของ Swing States สะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติที่ไม่แน่นอนของการเมืองในสหรัฐฯ และความสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้ในการกำหนดทิศทางของประเทศในอนาคต