ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ส่อแววการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มคว้าชัยประธานาธิบดีคนที่ 47 พร้อมกับพรรครีพับลิกันที่จะได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง) และสมาชิกวุฒิสภา (สภาสูง) ส่งผลให้รีพับลิกันจะสามารถผลักดันนโยบายได้อย่างเต็มที่
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) วิเคราะห์ว่า การกลับมาของทรัมป์พร้อมเสียงข้างมากในสภาจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ ไว้อย่างน่าสนใจว่า ในกรณีที่พรรคการเมืองเดียวกันสามารถชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและครองเสียงข้างมากในรัฐสภา (Sweep Scenario) รัฐบาลก็จะสามารถผลักดันนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายของพรรคได้อย่างเต็มที่
สศช.วิเคราะห์ กรณีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี และพรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมาก ดังนี้
การค้าระหว่างประเทศ
ดำเนินมาตรการทางการค้าต่อจีนจะมีความเข้มข้น โดยอาจนำไปสู่การขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีนเป็นร้อยละ 60 และร้อยละ 10 สำหรับประเทศอื่น ๆ
ภาษี
ต่ออายุการลดหย่อนภาษีที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560
อุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อม
ปรับแก้กฎหมายและกฎระเบียบให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ สนับสนุนการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ลดบทบาทของกฎหมาย Inflation Reduction Act และยกเลิกเครดิตภาษีคาร์บอน
ผู้อพยพและแรงงานต่างชาติ
งดการให้สิทธิการเป็นสัญชาติอเมริกันสำหรับเด็กที่เกิดในประเทศ แต่บุพการีไม่มีใบแจ้งการอพยพถิ่นฐาน
สวัสดิการสังคม
ปรับปรุง/ยกเลิก the Affordable Care Act โดยเพิ่มสัดส่วนค่าใช้จ่ายของประชาชน และให้แต่ละมลรัฐเป็นผู้กำหนดกฎหมายการทำแท้ง อีกทั้งสนับสนุนสิทธิในการถือครองปืนอย่างทั่วถึง
การเมืองระหว่างประเทศ
ยกเลิกความช่วยเหลือแก่ยูเครน แต่ยังให้การสนับสนุนอิสราเอลและมีจุดยืนที่ไม่สนับสนุน NATO
ความสัมพันธ์กับจีน
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ความมั่นคงและ NATO
อัตราเงินเฟ้อ หนี้สิน และเศรษฐกิจ
สาธารณสุขโลกและการป้องกันโรคระบาด
การย้ายถิ่นฐานและความมั่นคงชายแดน
อิสราเอล ฉนวนกาซา ตะวันออกกลาง
รัสเซียและยูเครน
การค้า