เปิดนโยบาย “โดนัลด์ ทรัมป์” แคนดิเดตตัวตึง กับนโยบายอเมริกายืนหนึ่ง

06 พ.ย. 2567 | 04:18 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ย. 2567 | 04:54 น.

โดนัลด์ ทรัมป์ ยังเน้นนโยบายส่งเสริมผลประโยชน์ของชาวอเมริกันและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยี การรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์กับจีน และการจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อม

การเลือกตั้งสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญระดับโลกที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นประเทศมหาอำนาจที่มีบทบาทสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงระหว่างประเทศ ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อประชาชนในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปทั่วโลก

ฐานเศรษฐกิจ พาเจาะนโยบายหนึ่งในแคนดิเดตที่ครั้งหนึ่งเคยก้าวไปถึงชัยชนะอย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” ในฐานะอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เน้นผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์และความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา นโยบายด้านต่างๆ ของทรัมป์ ได้แก่

AI และเทคโนโลยี

ทรัมป์มองว่า AI และเทคโนโลยีมีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ โดยในปี 2019 เขาออกคำสั่งประธานาธิบดีฉบับแรกเกี่ยวกับ AI พร้อมทั้งสนับสนุนการวิจัยที่เกี่ยวข้อง เขาเห็นว่าการแข่งขันด้าน AI กับจีนเป็นการแข่งขันที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ และเสนอแผนการสร้าง "คลังบิตคอยน์" ของชาติ รวมถึงกำหนดให้มีนโยบายต่อต้านการเซ็นเซอร์จากบริษัทเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบต่ออิสรภาพของคนอเมริกัน

ความสัมพันธ์กับจีน

ทรัมป์ยังมีท่าทีปฏิบัติต่อจีนอย่างแข็งกร้าว ตั้งแต่การขึ้นภาษีสินค้าจีนไปจนถึงการออกมาตรการคว่ำบาตรบริษัทเทคโนโลยีเช่น Huawei และเตรียมที่จะเพิกถอนสิทธิพิเศษทางการค้าที่สหรัฐฯ มอบให้จีน ทั้งนี้เพื่อปกป้องตลาดภายในและลดการพึ่งพาสินค้านำเข้าจากจีน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทรัมป์ตั้งเป้าหมายที่จะออกจากข้อตกลงปารีสอีกครั้ง และขยายการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลภายในประเทศ โดยเชื่อว่าการทำเช่นนี้จะช่วยลดอัตราเงินเฟ้อ และทำให้สหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก

ความมั่นคงและ NATO

ทรัมป์สนับสนุนการเสริมกำลังทหาร และมีแผนการปรับปรุงบทบาทของสหรัฐฯ ใน NATO โดยต้องการให้พันธมิตร NATO แบกรับภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงยังสร้างกองกำลังอวกาศเพื่อรับมือกับความท้าทายในอวกาศและพัฒนาแผนการป้องกันภัยคุกคามจากนอกโลกอย่างจริงจัง

อัตราเงินเฟ้อ หนี้สิน และเศรษฐกิจ

นโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์เน้นการลดภาษีและการปลดล็อกกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมการลงทุนและการจ้างงานในประเทศ โดยเสนอลดภาษีสำหรับบริษัทที่ผลิตในสหรัฐฯ และต่อต้านการเก็บภาษีที่สูง ซึ่งเขามองว่าเป็นภาระที่ทำลายเศรษฐกิจในระยะยาว

สาธารณสุขโลกและการป้องกันโรคระบาด

ทรัมป์ ยังให้สัญญาว่า จะขัดขวางการออกคำสั่งหรือข้อบังคับเกี่ยวกับ COVID-19 ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต พร้อมฟื้นฟูเสรีภาพทางการแพทย์ โดยเชื่อในข้อยกเว้นสำหรับการจำกัดสิทธิการทำแท้งในกรณีของการข่มขืน, การร่วมประเวณีในสายเลือดเดียวกัน และกรณีที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตของมารดา นอกจากนี้ ทรัมป์ยังสัญญาว่าจะเพิ่มความร่วมมือในการต่อต้านยาเสพติดกับรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านอย่างเม็กซิโก

การย้ายถิ่นฐานและความมั่นคงชายแดน

ทรัมป์เน้นนโยบายเข้มงวดในเรื่องการย้ายถิ่นฐาน ตั้งเป้าหมายดำเนินการเนรเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์และต้องการยุติสัญชาติตามสถานที่เกิดสำหรับผู้ลักลอบเข้าเมือง รวมถึงสนับสนุนการก่อสร้างกำแพงชายแดนต่อไป

อิสราเอล กาซา และตะวันออกกลาง

ทรัมป์มีนโยบายสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งขัน โดยย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ไปยังกรุงเยรูซาเล็มและยอมรับอธิปไตยของอิสราเอลในที่ดินพิพาท รวมถึงพยายามแยกตัวออกจากอิหร่านผ่านมาตรการคว่ำบาตรและการป้องกันการแพร่ขยายของรัฐอิสลาม

รัสเซียและยูเครน

แม้ทรัมป์จะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย แต่เขายังคงใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อกดดันรัสเซียในประเด็นการยึดครองดินแดนยูเครน และย้ำว่าสหรัฐฯ ควรมีบทบาทในการยุติสงครามที่มีผลกระทบสูงนี้

การค้า

ทรัมป์ต้องการให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำในการผลิตสินค้า โดยเสนอนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ และเน้นการสร้างข้อตกลงการค้าที่สนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ เช่น ข้อตกลง USMCA ที่ปรับปรุงจาก NAFTA และเสนอยุติข้อตกลงการค้าในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เขามองว่าเป็นภาระต่อประเทศ