รอยเตอร์รายงานว่า ค่าเงินเปโซเม็กซิโกอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ขณะที่ตลาดเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ ส่งผลให้สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญนี้ยังคงผันผวนและอ่อนค่าต่อเนื่อง
เงินเปโซร่วงลงแตะระดับ 20.8038 เปโซต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 อ่อนค่าลงกว่า 3% เมื่อเทียบกับการปิดตลาดครั้งก่อน นับเป็นการร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การเลือกตั้งในเม็กซิโกเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา แม้ว่าสกุลเงินตลาดเกิดใหม่จะอ่อนค่าลงโดยรวมเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก แต่เปโซกลับบันทึกการสูญเสียมากที่สุดในบรรดาสกุลเงินเหล่านี้
คริส เทอร์เนอร์ หัวหน้าฝ่ายตลาดโลกของ ING กล่าวว่า "เปโซเม็กซิโกได้รับผลกระทบอย่างหนัก ความผันผวนที่สูงกำลังบั่นทอนการทำธุรกรรมแบบแคร์รี่เทรด และเราอาจเห็นการเคลื่อนไหวไปถึงระดับ 22.00 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า"
หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในปี 2559 เงินเปโซเคยร่วงลงประมาณ 8.5% เทียบกับดอลลาร์ จนแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในขณะนั้น
การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐเริ่มต้นขึ้นหลังจากมีสัญญาณเบื้องต้นว่าพรรครีพับลิกันจะชนะในรัฐจอร์เจีย และยังคงเพิ่มแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
ตลาดกังวลว่าเม็กซิโกอาจเผชิญกับอุปสรรคทางการค้าภายใต้การนำของทรัมป์หากได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง
เทอร์เนอร์กล่าวว่าปี 2568 อาจเป็น "ปีที่ยากลำบากสำหรับเปโซ" หากประธานาธิบดีที่คาดว่าจะได้รับเลือกอย่างทรัมป์ตั้งคำถามเกี่ยวกับการต่ออายุข้อตกลง USMCA ในการทบทวนปี 2569 โดย USMCA หรือข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา เป็นข้อตกลงที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2563
ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องการย้ายถิ่นฐานและเงินส่งกลับจากเม็กซิโกไปยังสหรัฐฯ คาดว่าจะเป็นประเด็นขัดแย้งสำคัญอีกด้วย