สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) ทำเนียบเครมลินยืนยันการโจมตีเป้าหมายในยูเครนด้วยขีปนาวุธบัลลิสติกไฮเปอร์โซนิครุ่นใหม่ นับเป็นการส่งข้อความเตือนชาติตะวันตกว่า รัสเซียพร้อมตอบโต้การสนับสนุนที่ประมาทต่อยูเครนด้วยมาตรการที่รุนแรง
นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐและอังกฤษโจมตีดินแดนรัสเซียครั้งแรก โดยได้รับอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐ
โดยกล่าวว่า "การตัดสินใจที่ประมาทของชาติตะวันตกในการผลิตและส่งขีปนาวุธให้ยูเครน และมีส่วนร่วมในการโจมตีรัสเซีย ไม่อาจหลีกเลี่ยงการตอบโต้จากฝ่ายรัสเซียได้"
ทั้งนี้ฝ่ายรัสเซียได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเราอย่างชัดเจน และได้กำหนดแนวทางการตอบโต้ในอนาคตในกรณีที่ข้อกังวลของเราไม่ได้รับการพิจารณาไว้อย่างชัดเจนแล้ว
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการตอบโต้ที่จำเป็น หลังจากยูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS ที่ผลิตในสหรัฐ และขีปนาวุธ Storm Shadow ที่ผลิตในอังกฤษ เขากล่าวเพิ่มเติมว่า การกระทำของตะวันตกที่อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธโจมตีดินแดนรัสเซียอาจเปลี่ยนลักษณะและขอบเขตของความขัดแย้งได้
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุเมื่อวันศุกร์ว่า หัวรบทั้งหมดของขีปนาวุธได้โจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และชื่นชมการใช้งานครั้งแรกของขีปนาวุธบัลลิสติกไฮเปอร์โซนิคระยะกลางที่มีหัวรบแบบธรรมดาในสถานการณ์การสู้รบ
เปสคอฟ ยอมรับว่า รัสเซียได้แจ้งสหรัฐล่วงหน้า 30 นาทีก่อนยิงขีปนาวุธ โดยระบุว่าการแจ้งเตือนนี้ไม่ได้เป็นข้อบังคับ แต่เป็นการส่งสัญญาณถึงความเปิดกว้างในการเจรจา เพื่อหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งเพิ่มเติม
"ประธานาธิบดีปูตินยังพร้อมสำหรับการเจรจาทุกครั้ง เพื่อมุ่งสู่เส้นทางสันติภาพและลดความรุนแรง แต่เราหวังว่าสหรัฐจะรับฟังข้อความนี้อย่างจริงจัง" เปสคอฟกล่าว
โดยการโจมตีด้วยขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคของรัสเซียครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับความขัดแย้งที่สำคัญในสงครามยูเครน พร้อมส่งสัญญาณถึงชาติตะวันตกว่าการสนับสนุนยูเครน อาจนำมาซึ่งผลกระทบที่ยากจะคาดเดาในอนาคต
ภาพจาก : reuters