ผู้พิพากษา ระบุว่า ทรัมป์วัย 78 ปี สามารถเข้ารับฟังคำพิพากษาในวันที่ 10 มกราคมได้ทั้งแบบตัวต่อตัวหรือผ่านทางออนไลน์ โดยเขาย้ำว่าโทษที่เหมาะสมที่สุดคือการ "ปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข" ซึ่งหมายถึงไม่มีการจำคุก ค่าปรับ หรือทัณฑ์บน เพื่อเปิดทางให้ทรัมป์สามารถยื่นอุทธรณ์ได้
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษา วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ที่โจมตีระบบยุติธรรมผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามแสดงความเห็นเกี่ยวกับพยานหลายครั้ง
คดีนี้เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงิน 130,000 ดอลลาร์โดย ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายความของทรัมป์ ให้แก่ สตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงภาพยนตร์ผู้ใหญ่ เพื่อปิดปากเรื่องความสัมพันธ์ที่ถูกกล่าวหาในช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2016 คณะลูกขุนแมนฮัตตัน พบว่า ทรัมป์มีความผิดในข้อหาปลอมแปลงเอกสารธุรกิจ 34 กระทง
ทรัมป์ปฏิเสธข้อกล่าวหาและกล่าวหาว่าอัยการ แอลวิน แบร็กก์ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต ใช้คดีนี้เพื่อทำลายแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งปี 2024 ของเขา
ทีมกฎหมายของทรัมป์ยื่นคำร้องหลายครั้งเพื่อยกฟ้องคดีนี้ โดยอ้างว่าการดำเนินคดีในระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจะกระทบต่อการบริหารประเทศ แต่ผู้พิพากษปฏิเสธคำร้อง โดยระบุว่าการปลอมแปลงเอกสารเป็นการกระทำส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของประธานาธิบดี
คำร้องให้เลื่อนการพิจารณาคดีไปหลังจากที่ทรัมป์พ้นตำแหน่งในปี 2029 ก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน โดยผู้พิพากษาระบุว่าการเลื่อนดังกล่าวไม่น่าสนใจเท่ากับการดำเนินคดีก่อนการเข้ารับตำแหน่ง
นอกจากคดีนี้ ทรัมป์ยังต้องเผชิญกับคดีอาญาอื่นๆ อีก 3 คดีในปี 2023 ซึ่งรวมถึงคดีเกี่ยวกับเอกสารลับและความพยายามพลิกผลการเลือกตั้งในปี 2020
อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมได้ยกฟ้องคดีของรัฐบาลกลาง 2 คดีหลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ขณะที่คดีอาญาในรัฐจอร์เจียยังคงค้างอยู่