ทรัมป์-อีลอน มัสก์ “First Buddy” อำนาจใหม่ของมหาเศรษฐีสะเทือนการเมืองสหรัฐ

07 ก.พ. 2568 | 03:45 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2568 | 03:50 น.

จากคู่กัดสู่พันธมิตร "First Buddy" ของทรัมป์-อีลอน มัสก์ เปลี่ยนโฉมการเมืองสหรัฐฯ เมื่อมหาเศรษฐีเทคโนโลยีก้าวขึ้นเป็นผู้มีอิทธิพลสำคัญ กระทบการเลือกตั้ง 2024 และอนาคตของระเบียบการเมืองเก่า

ในปี 2024 การเมืองสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับพลวัตใหม่ที่ท้าทายกว่าทุกยุค อิทธิพลของมหาเศรษฐีเทคโนโลยีที่ไม่เพียงแค่มีบทบาทในวงการธุรกิจ แต่ยังแทรกซึมลึกเข้าไปในโครงสร้างอำนาจของรัฐ และไม่มีใครสะท้อนปรากฏการณ์นี้ได้ดีไปกว่า อีลอน มัสก์ กับสถานะ "First Buddy" ต่อ โดนัลด์ ทรัมป์

ย้อนกลับไปในปี 2016 มัสก์เคยแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่าทรัมป์ "ไม่มีคุณสมบัติ" ที่เหมาะสมในการเป็นผู้นำประเทศ แต่ไม่นานหลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง มัสก์กลับได้รับเชิญให้เข้าร่วมคณะที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของทำเนียบขาว ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างสองบุคคลที่ทรงอิทธิพลนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อทรัมป์นำสหรัฐฯ ถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในปี 2017 มัสก์ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาเพื่อแสดงจุดยืนทางสิ่งแวดล้อม

ในช่วงปี 2022-2023 ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับมามีแนวโน้มดีขึ้นอีกครั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มยกย่องมัสก์ว่าเป็น "อัจฉริยะ" ขณะที่ อีลอน มัสก์ เองก็ให้การสนับสนุนนโยบายควบคุมพรมแดนของทรัมป์ รวมถึงเริ่มวิพากษ์วิจารณ์พรรคเดโมแครตอย่างเปิดเผย

จุดเปลี่ยนที่สำคัญเกิดขึ้นใน กรกฎาคม 2024 หลังจากทรัมป์รอดชีวิตจากเหตุพยายามลอบสังหาร มัสก์รีบออกมาประกาศสนับสนุนทรัมป์ทันที พร้อมข่าวลือว่าเขาจะทุ่มเงินกว่า 45 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน สนับสนุนแคมเปญของทรัมป์ หลังจากนั้น มัสก์ก็เปิดเวทีสนทนาบนแพลตฟอร์ม X กับทรัมป์ และแสดงท่าทีพร้อมรับตำแหน่งในรัฐบาลชุดใหม่

"First Buddy" กับผลกระทบต่อการเลือกตั้ง 2024

การที่มหาเศรษฐีระดับโลกอย่างมัสก์สนับสนุนทรัมป์อย่างเปิดเผย ส่งผลต่อการเลือกตั้ง 2024 ในหลายด้าน

  • เสริมฐานเสียงของทรัมป์ ฐานผู้สนับสนุนทรัมป์ได้รับแรงหนุนจากกลุ่มผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมด้านเศรษฐกิจ และผู้ที่ไม่ไว้วางใจรัฐบาลเดโมแครต ในขณะเดียวกัน มัสก์ยังสามารถดึงดูดกลุ่มผู้ใช้ X และนักลงทุนที่สนใจการลดบทบาทภาครัฐ
  • สร้างแรงกดดันต่อเดโมแครต พรรคเดโมแครตต้องเผชิญกับมหาเศรษฐีเทคโนโลยีที่ทรงพลังอย่างมัสก์ ซึ่งพร้อมใช้ทรัพยากรและแพลตฟอร์มของเขาในการขับเคลื่อนวาทกรรมทางการเมือง
  • กระทบต่อตลาดการเงินและธุรกิจ หุ้นของบริษัทในเครือมัสก์ เช่น Tesla และ SpaceX มีแนวโน้มผันผวนตามท่าทีทางการเมืองของเขา นักลงทุนเองก็จับตามองว่า ความสัมพันธ์ของมัสก์กับทรัมป์จะส่งผลต่อกฎระเบียบภาคเทคโนโลยีอย่างไร

 

มหาเศรษฐีกับอำนาจใหม่สั่นสะเทือนระเบียบเก่า

การมีอิทธิพลของมหาเศรษฐีอย่างมัสก์ในรัฐบาลทรัมป์สะท้อนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของระเบียบการเมืองสหรัฐฯ

  • รัฐบาลที่ขับเคลื่อนโดยภาคเอกชน มัสก์ไม่ได้เป็นเพียงที่ปรึกษา แต่ยังได้รับตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานใหม่อย่าง Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งเน้นการลดขนาดและตัดงบประมาณหน่วยงานของรัฐ
  • ความท้าทายต่อพรรคการเมืองดั้งเดิม พรรครีพับลิกันแบบดั้งเดิมต้องเผชิญกับการก้าวขึ้นมาของบุคคลภายนอกที่ไม่เคยมีบทบาททางการเมืองมาก่อน
  • การควบรวมระหว่างเทคโนโลยีและรัฐบาล การที่มัสก์สามารถแทรกแซงนโยบายของรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มของตัวเอง (X) และมีอำนาจกำหนดทิศทางของหน่วยงานรัฐ ถือเป็นสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงของอำนาจในการปกครอง

 

จุดแตกหัก?

แม้ อีลอน มัสก์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ จะดูเหมือนเป็นคู่หูทางการเมืองที่แข็งแกร่ง แต่ก็มีสัญญาณว่า "ความสัมพันธ์แบบ First Buddy" อาจไม่จีรัง

  • ทรัมป์เริ่มรำคาญมัสก์ รายงานจากแหล่งข่าววงในของสื่อต่างประเทศระบุว่าทรัมป์รู้สึกว่ามัสก์กำลังแย่งซีน และอาจกลายเป็นคู่แข่งทางอำนาจในอนาคต
  • มัสก์ต้องเผชิญแรงต้านจากรัฐบาล แม้ว่ามัสก์จะมีอิทธิพลมาก แต่การเคลื่อนไหวที่รุนแรง เช่น การพยายามรื้อถอนหน่วยงานของรัฐ อาจนำไปสู่การตอบโต้จากสภาคองเกรส
  • สังคมเริ่มไม่ไว้ใจอำนาจของมหาเศรษฐี การสำรวจความคิดเห็นในสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากกังวลกับอิทธิพลของมหาเศรษฐีในรัฐบาล

 

อนาคตของ "First Buddy" และระเบียบใหม่ทางการเมือง

บทบาทของมัสก์ในการบริหารประเทศของทรัมป์อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กำหนด อนาคตของอำนาจทางการเมืองในสหรัฐฯ ไม่ว่าความสัมพันธ์นี้จะดำเนินต่อไปหรือแตกหัก มันได้เปิดประตูให้มหาเศรษฐีเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญยิ่งกว่าที่เคยในโครงสร้างอำนาจของประเทศ

 

อ้างอิง: Independent, BBCCity University of London, Business insider, Yahoo, The Guardian