thansettakij
จีนเอาคืนสหรัฐ! กระหน่ำขึ้นภาษี 125% จวก “ทรัมป์” เล่น “เกมตัวเลขไร้ความหมาย”

จีนเอาคืนสหรัฐ! กระหน่ำขึ้นภาษี 125% จวก “ทรัมป์” เล่น “เกมตัวเลขไร้ความหมาย”

11 เม.ย. 2568 | 08:50 น.
อัปเดตล่าสุด :11 เม.ย. 2568 | 08:52 น.

จีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐจาก 84% เป็น 125% เริ่ม 12 เม.ย. ตอบโต้มาตรการภาษีของทรัมป์ พร้อมจวก “เกมตัวเลขไร้ความหมาย”

จีนเดินเกมตอบโต้สหรัฐฯ อีกครั้งด้วยการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทุกชนิดจากสหรัฐฯ จากเดิม 84% เป็นสูงสุดถึง 125% โดยจะมีผลในวันที่ 12 เมษายนนี้ พร้อมระบุชัดเจนว่าจะไม่ขยับขึ้นอีก แม้สหรัฐฯ จะประกาศมาตรการภาษีเพิ่มเติมในอนาคตก็ตาม ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าจีนหมดความอดทนกับการเล่น “เกมตัวเลข” ที่ไม่มีความหมายทางเศรษฐกิจอีกต่อไป

กระทรวงการคลังของจีนประกาศมาตรการดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจีนจนแตะระดับ 145% ในปีนี้ ทำให้การส่งออกสินค้าจากสหรัฐฯ เข้าสู่ตลาดจีนไม่มีความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์อีกต่อไป จีนจึงเลือกที่จะดำเนินการตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีอย่างหนักเช่นกัน และยืนยันว่าหากสหรัฐฯ ยังเดินหน้าขึ้นภาษีต่อ จีนจะ “ไม่ให้ความสนใจ” กับการกระทำดังกล่าวอีก

“ในเมื่อไม่มีความเป็นไปได้ทางการตลาดใดๆ ที่จะทำให้สินค้าสหรัฐฯ ขายได้ในจีนภายใต้โครงสร้างภาษีปัจจุบัน หากสหรัฐฯ ยังคงใช้มาตรการภาษีกับสินค้าจีนต่อไป จีนก็จะไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อีกต่อไป” แถลงการณ์ระบุอย่างตรงไปตรงมา

ผลกระทบจากท่าทีแข็งกร้าวของจีนในครั้งนี้เริ่มปรากฏทันทีในตลาดการเงิน โดยฟิวเจอร์สดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ ร่วงลงเพิ่มเติมหลังข่าวถูกเผยแพร่ ขณะที่ฟิวเจอร์สดัชนี Hang Seng China Enterprises ซึ่งก่อนหน้ามีกำไรจากแรงซื้อก็ปรับลดลงเช่นกัน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ของ Bloomberg ยังร่วงลงกว่า 1% ในวันเดียว สะท้อนความกังวลของตลาดที่มีต่อความตึงเครียดทางการค้าระลอกใหม่

หลังการประกาศของกระทรวงการคลังจีน กระทรวงพาณิชย์จีนยังออกแถลงการณ์เสริม โดยประณามสหรัฐฯ ว่า การใช้ภาษีในระดับสูงเกินจริงของสหรัฐฯ กลายเป็นเพียง “เกมตัวเลข” ที่ปราศจากความหมายทางเศรษฐกิจ และเปิดเผยเจตนาชัดเจนว่า สหรัฐฯ ใช้ภาษีเป็นเครื่องมือกดดันและข่มขู่ประเทศอื่นๆ เท่านั้น

“นี่มันกลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว” แถลงการณ์ระบุ

ท่าทีครั้งนี้สะท้อนถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่ดำเนินมาต่อเนื่องมาหลายปี จีนแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พร้อมจะทนต่อการตอบโต้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดอีกต่อไป พร้อมส่งสัญญาณว่ากำลังหันหลังให้กับแนวทางเจรจาแบบเดิมๆ ที่เคยมี

ขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตาดูว่า สหรัฐฯ จะตอบโต้กลับอย่างไร หรือจะพยายามใช้ช่องทางการทูตเพื่อลดแรงปะทะทางเศรษฐกิจลง การเผชิญหน้าทางการค้าระลอกใหม่นี้อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่หลายประเทศกำลังฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจหลังโควิด-19 และต้องรับมือกับความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก