หมองทอง“บาตามัส” 3 จังหวัดชายแดนใต้โดนใจผู้นำเข้าผลไม้รายใหญ่จากจีนมั่นใจคุณภาพเตรียมรับซื้อไปจำหน่ายคาดสร้างรายได้กว่า 160-240 ล้าน
คณะนักธุรกิจจีนนำโดยนายเฉินเว่ยปิน(Shen Wei Bin) ผู้อำนวยการด้านการตลาดบริษัทกวางโจวยูฝูจำกัด(Guangzhou You Fu) ซึ่งเป็นบริษัทรับซื้อผลไม้จากทั่วโลกไปจำหน่ายในประเทศจีนรายใหญ่อันดับต้นๆร่วมกับผู้บริหารกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจรบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์จำกัดเดินทางมาเยี่ยมชมและตรวจสอบคุณภาพการปลูกทุเรียนบาตามัส(ทุเรียนหมอนทอง) ภายใต้โครงการทุเรียนคุณภาพในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริดำเนินการร่วมกับภาคราชการและเกษตรกร
หลังจากศึกษาพื้นที่และพูดคุยกับเกษตรกรชาวสวนทุเรียนของโครงการฯ นายเฉินเว่ยปินกล่าวว่ามีความยินดีที่มีโอกาสได้เยี่ยมชมและรับฟังผลการดำเนินงานพัฒนาเพื่อให้ได้ผลผลิตทุเรียนที่มีคุณภาพซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสและรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายเฉินกล่าวว่าปีที่ผ่านมาสัดส่วนการนำเข้าทุเรียนผลสดจากประเทศไทยอยู่ที่90-95% อีก5-10% เป็นผลผลิตจากประเทศเวียดนามและมาเลเซียซึ่งจากการที่รัฐบาลจีนเข้มงวดมากขึ้นเรื่องคุณภาพ
ขณะที่มาเลเซียและเวียดนามก็กำลังพยายามขอโอกาสจากรัฐบาลจีนในการส่งออกทุเรียนเพิ่มขึ้น ฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำคือการสร้างมาตรฐานทุเรียนไทยให้เข้มแข็ง
คนจีนนิยมทานทุเรียนมากทุเรียนที่ได้รับความนิยมเป็นทุเรียนที่มีเนื้อละเอียดสีเหลืองทองออกเข้มเต็มพูรสชาติหวานที่ผ่านมาเมื่อพูดถึงทุเรียนไทยชาวจีนจะรับรู้ว่าเป็นทุเรียนจากจันทบุรีดังนั้นการขายทุเรียนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงเป็นเรื่องใหม่ที่จะสร้างการรับรู้ว่าที่นี่ก็เป็นแหล่งผลิตทุเรียนคุณภาพอีกแห่งหนึ่งของไทยนอ
กจากนี้ยังจะมีการมองหาทุเรียนพันธุ์อื่นนอกจาก“หมอนทอง” ที่รสชาติดีมีคุณภาพไปเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคอีกด้วย
ผู้รับซื้อมั่นใจในคุณภาพของทุเรียนที่ผลิตจากพื้นที่นี้เพราะในโครงการมีคู่มือผลิตทุเรียนคุณภาพและสมุดตรวจแปลงซึ่งเป็นเรื่องที่พิเศษมากเพราะหากทำตามคู่มือการผลิตและมีการบันทึกติดตามการผลิตอย่างเข้มงวดจริงจังผลทุเรียนที่ได้จะมีคุณภาพที่ดีมากเพราะในคู่มือมีแม้แต่การกำหนดระยะเวลาตัดทุเรียนโดยพิจารณาที่ระดับความหวานของทุเรียนซึ่งจะเป็นจุดเด่นในการสร้างมาตรฐานที่มีความพิเศษต่างจากแหล่งอื่นๆที่บริษัทเคยรับซื้อมา
นายการัณย์ศุภกิจวิเลขการผู้อำนวยการสถาบันปิดทองหลังพระฯกล่าวว่าโครงการทุเรียนคุณภาพปีนี้ดำเนินการเป็นปีที่สองแล้วเพื่อแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนใน3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งขาดโอกาสความรู้และทุนในการผลิตและจำหน่ายทุเรียนปิดทองหลังพระฯจึงบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาคีภาครัฐเอกชนและประชาชนสนับสนุนองค์ความรู้ในการบำรุงดูแลต้นสนับสนุนระบบน้ำเข้าแปลง และปัจจัยการผลิตต่างๆในรูปแบบยืมก่อนจ่ายทีหลัง
รวมทั้งมีการคัดเลือก‘อาสาทุเรียน’ 91 คนจากเกษตรกรในพื้นที่ไปฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรพอเพียงต.วังหว้าอ.แกลงจ.ระยองตั้งแต่การบำรุงดูแลต้นการป้องกันโรคและศัตรูพืชไปจนถึงการเก็บเกี่ยวเพื่อนำความรู้กลับมาแนะนำเกษตรกรรายอื่นต่อไป
“ในปีนี้สามารถขยายผลการดำเนินการไปยังสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นจำนวน 664 รายพื้นที่1,125 ไร่จำนวนทุเรียนรวม22,508 ต้นซึ่งจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตรอบแรกได้ในกลางเดือนกรกฏาคม2562 นี้มีการคาดการณ์ผลผลิตว่าจะมีประมาณ2,500 ตันจะสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรวมกันไม่น้อยกว่า160 -240 ล้านบาท”