ไนกี้ลดขนาดธุรกิจกอล์ฟ หลังกระแสตลาดซบเซาลง

08 ส.ค. 2559 | 00:00 น.
ไนกี้ ผู้ผลิตเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาอันดับ 1 ของโลก ประกาศว่าจะเลิกผลิตไม้กอล์ฟและลูกกอล์ฟ หลังตลาดสินค้าอุปกรณ์กีฬากอล์ฟซบเซาต่อเนื่อง

ไนกี้ เปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า จะหันไปให้ความสำคัญกับการผลิตเสื้อผ้าและรองเท้าสำหรับกีฬากอล์ฟเป็นหลัก และเพิ่มงบประมาณในด้านการเป็นสปอนเซอร์ให้กับนักกีฬากอล์ฟ ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทจะยุติการผลิตสินค้าประเภทไม้กอล์ฟ ลูกกอล์ฟ และถุงกอล์ฟ "เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำอย่างเต็มตัวในตลาดรองเท้าและเสื้อผ้ากีฬากอล์ฟ" เทรเวอร์ เอ็ดเวิร์ดส์ ประธานฝ่ายแบรนด์ของไนกี้ กล่าว

การตัดสินใจถอนตัวจากธุรกิจอุปกรณ์แข่งขันกีฬากอล์ฟของไนกี้ เกิดขึ้นในเวลาที่ตลาดอุปกรณ์กอล์ฟและตลาดอุปกรณ์กีฬาโดยรวมมีแนวโน้มชะลอตัว อาดิดาส คู่แข่งสำคัญของไนกี้ กล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า กำลังมองหาช่องทางขายธุรกิจกอล์ฟส่วนหนึ่ง ซึ่งรวมถึงกิจการของแบรนด์เทเลอร์เมด หนึ่งในแบรนด์ชั้นนำของตลาด

กอล์ฟนับเป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนเล็กที่สุดในบรรดาธุรกิจของไนกี้ โดยในปีงบประมาณที่ผ่านมา ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม มียอดขายลดลง 8% เหลือ 706 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นยอดขายที่ลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

ไนกี้ทำรายได้ส่วนใหญ่ได้จากการขายรองเท้าและเสื้อผ้ากีฬากอล์ฟ และแบรนด์ได้รับความนิยมขึ้นมาในกลุ่มนักกีฬากอล์ฟส่วนหนึ่งเนื่องจากความนิยมของ ไทเกอร์ วูดส์ อดีตนักกอล์ฟมือ 1 ของโลกในช่วงปลายทศวรรษ ค.ศ. 1990 ถึงต้นทศวรรษค.ศ. 2000 ที่ใช้อุปกรณ์และชุดแข่งขันของไนกี้ อย่างไรก็ตาม กีฬากอล์ฟได้รับความสนใจลดน้อยลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้คนวัยหนุ่มสาว

ไนกี้ยังคงเป็นสปอนเซอร์ให้กับไทเกอร์ วูดส์ แต่หลังจากวูดส์ไม่ชนะการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ มาเป็นเวลานาน และต้องพักการแข่งขันเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ไนกี้รวมถึงผู้ผลิตอุปกรณ์กอล์ฟรายอื่นๆ ได้พยายามมองหาตัวแทนของวูดส์ขึ้นมายกระดับความสนใจในกีฬากอล์ฟอีกครั้ง โดยไนกี้เลือกสนับสนุน รอรี แมคอิลรอย วัย 27 ปี เจ้าของแชมป์รายการเมเจอร์ 4 รายการ ขณะที่คู่แข่งอย่าง อันเดอร์ อาร์เมอร์ ประสบความสำเร็จกับการเป็นสปอนเซอร์ให้กับ จอร์แดน สปีธ วัย 23 ปี ที่คว้าแชมป์เมเจอร์มาได้แล้ว 2 รายการ

ข้อมูลจากมูลนิธิกอล์ฟแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ชาวอเมริกันที่เล่นกีฬากอล์ฟทำสถิติสูงสุด 30 ล้านคนเมื่อปี 2546 แต่หลังจากนั้นก็ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ผลิตต่างๆ รวมถึงไนกี้ พยายามที่จะสร้างความสนใจของกีฬากอล์ฟให้กับผู้บริโภควัยหนุ่มสาว อาทิ ผลิตรองเท้ากอล์ฟแบบแคชวลที่สามารถดึงดูดผู้บริโภคได้ในกลุ่มที่กว้างขึ้นจากเพียงแค่นักกีฬาเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มีผู้ผลิตบางรายที่ยังคงมองเห็นโอกาสสดใสในตลาดอุปกรณ์กีฬากอล์ฟ โดยบริษัท อคุชเน็ต โฮลดิ้งส์ฯ เจ้าของแบรนด์ไทเทิลลิสต์ และฟุตจอย ตัดสินใจเปิดขายหุ้นไอพีโอเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,181 วันที่ 7 - 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559