JKN ร่วงติดฟลอร์หลังปลด SP งบการเงินขาดทุนอ่วม 2.13 พันล้าน

29 มี.ค. 2567 | 04:20 น.

หุ้นนางงาม JKN ร่วงติดฟลอร์หลังปลด SP งบการเงินขาดทุนอ่วมกว่า 2.13 พันล้าน เงินสดเกือบหมดหน้าตัก

29 มีนาคม 2567 เมื่อเวลา 10.24 น. จากราคาเปิด 0.52 บาท ราคาต่ำสุด 0.52 บาท ราคาสูงสุด 0.55 บาท ราคาหุ้น JKN ร่วง 29.73% หรือลดลง 0.22 บาท มาที่ 0.52 บาท มูลค่าซื้อขาย 17.10 ล้านบาท โดยราคาปิดเมื่อ 29 ก.พ.67 อยู่ที่ 0.74 บาท

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลด SP หุ้น บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) ให้กลับมาซื้อขายตามปกติวันนี้ (29 มี.ค.67) วันแรก หลังจากถูกขึ้น SP ยาวมาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.67 เนื่องจากไม่นำส่งงบการเงินประจำปี 2566 ภายในเวลาที่กำหนดนั้น

แต่ต่อมา JKN ได้นำส่งงบการเงินแล้ว อย่างไรก็ตามผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็น ตลท.จึงคง SP ไว้ถึงเมื่อวานนี้ และวันนี้ปลด SP ขึ้นเครื่องหมาย CS แทน

JKN แจ้งงบการเงินปี 2566 พลิกขาดทุน 2.13 พันล้านบาท จากกำไร 608 ล้านบาทในปี 2565 แจงรายได้ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ 2,495.42 ล้านบาท ลดลง 174.15 ล้านบาทจากปี 2565 หรือลดลง 6.52% เนื่องจากกลุ่มธุรกิจสื่อโทรทัศน์แบบดั้งเดิมที่เป็นลูกค้าหลักมีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้บริษัทซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บหนี้ได้น้อยลง

ในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 2.495.42 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 174.15 ล้านบาท หรือ 6.52% โดยรายได้ค่าสิทธิ์จากธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์รายการ ลดลง 13.82% รายได้จากการให้บริการจากธุรกิจบริการโฆษณา เพิ่มขึ้น 47.62% รายได้จากการขายจากธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดลง 41.06% รายได้จากการบริหารจัดการลิขสิทธิ์ขององค์กรนางงามจักรวาลเพิ่มขึ้น 3,206.06% จากการที่เป็นปีแรกที่จัดประกวดนางงามจักรวาลภายใต้การดำเนินงานของบริษัท และ รายได้อื่นลดลง 92.45% เนื่องจากรับรู้กำไรจากการซื้อกิจการในราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม 441.10 ล้านบาท

บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 2,157.48 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากการพิจารณาการด้อยค่าสินทรัพย์ โดยบริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าในสินทรัพย์ไม่มีตัวตน-ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ 841.97 ล้านบาท ผลขาดทุนจากการด้อยค่าในเครื่องหมายการค้าและค่าความนิยม 271.52 ล้านบาท และการตั้งสำรองด้อยค่าในสินทรัพย์อื่น 31.48 ล้านบาท รวมทั้งสามรายการเป็นยอดรวม 1,144.97 ล้านบาท และการรับรู้ผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยตั้งเป็นค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 494.86 ล้านบาท

นอกจากนั้นบริษัทมีการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าในเงินลงทุนในบริษัทย่อย 619.45 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการกระทบในงบการเงินเฉพาะแต่ละกิจการ

นอกจากนั้น ยังเป็นผลจากรายได้ในธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในไตรมาส 4/66 ลดลงอย่างมาก แม้จะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจการจัดประกวดนางงามจักรวาลที่จัดประกวดในเดือน พ.ย.66 แต่ก็ไม่สามารถชดเชยได้ เนื่องด้วยต้นทุนบริการของธุรกิจการขายและให้บริการได้รวมต้นทุนของการจัดการสิทธิ์ของมิสยูนิเวิร์สจากการจัดการประกวด 2 ครั้งในปี 66 ไว้(จัดประกวดในเดือนมกราคม 2566 และ พฤศจิกายน 2566)

จากเหตุผลที่กล่าวจึงส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิในปี 66 ลดลงมาอยู่ในสถานะขาดทุนสุทธิ -86.46% จากปี 65 มีอัตรากำไร

สุทธิ 21.85% และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเมื่อเทียบกับรายได้รวมปี 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่อัตรา 99.39% จากอัตรา 18.16% ในปี 65