ทวิภาคีไทย-ฝรั่งเศส : นายกฯ ถก “มาครง” เร่งฟื้นเจรจา FTA ไทย–อียู

17 พ.ย. 2565 | 07:10 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2565 | 14:23 น.

นายกฯ “ประยุทธ์” ทวิภาคี “เอมานูว์แอล มาครง” ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง การศึกษา พร้อมขอฝรั่งเศสหนุนการรื้อฟื้นการเจรจา FTA ไทย-อียู

วันนี้ (17 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือทวิภาคี กับ นายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในโอกาสเดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค APEC 2022 THAILAND ในฐานะแขกพิเศษของไทย

 

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือที่สำคัญร่วมกัน ดังนี้

 

นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับ นายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

 

  • ด้านการอำนวยความสะดวก

ทั้งสองฝ่ายหารือถึงการจัดทำความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางราชการไทย - ฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีขอให้ฝรั่งเศสเร่งรัดการดำเนินการดังกล่าวให้มีความคืบหน้า ซึ่งจะช่วยให้การเดินหน้าความสัมพันธ์เป็นไปด้วยความสะดวก

 

โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสพร้อมเร่งรัดการดำเนินการ คาดว่า ภายในเดือนมกราคม 2566 จะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

  • ด้านความมั่นคง 

นายกรัฐมนตรียินดีกับความร่วมมือทางการทหารที่ใกล้ชิด บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นและไว้วางใจ ตลอดจนยินดีที่ฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก รวมถึงไทย โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมเร่งรัดการจัดตั้งกลไกการหารือ 2+2 dialogue ไทย - ฝรั่งเศส เพื่อหารือในประเด็นท้าทายด้านความมั่นคง 

 

ด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศสเห็นว่า ไทยกับฝรั่งเศสมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการส่งเสริมความเชื่อใจและความใกล้ชิดระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย การสร้างฐานอุตสาหกรรมในประเทศไทย การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการวิจัยทางทะเล 

 

นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับ นายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

 

  • ด้านเศรษฐกิจ 

ทั้งสองฝ่ายยินดีกับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ และจะขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยรัฐบาลไทยได้ปรับนโยบายที่เน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งสอดคล้องกับแผนปฏิรูปสีเขียวของ EU จึงเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนการส่งออกสินค้าสิ่งแวดล้อมและการลงทุนในธุรกิจสีเขียว 

 

ทั้งนี้ไทยร่วมกับสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคลดอัตราภาษีนำเข้าทั่วไปสำหรับรายการสินค้าสิ่งแวดล้อม 54 รายการ นายกฯ จึงเชิญชวนให้ฝรั่งเศสใช้ประโยชน์จากนโยบายนี้ ด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศสพร้อมมีความร่วมมือกับไทยในด้านการผลิตและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเกษตรกรรม และพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนา EEC 

  • ด้านการศึกษาและวิชาการ 

ไทยกับฝรั่งเศสมีความร่วมมือในด้านการศึกษามาอย่างยาวนาน โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสพร้อมสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิชาการ และนักวิจัยระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งในปีหน้าคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถลงนามในความตกลงด้านการศึกษาระหว่างกันได้ ซึ่งจะทำให้ความร่วมมือของทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น

 

ขณะที่การสมัครเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ต ของไทย นายกฯ ขอรับการสนับสนุนจากฝรั่งเศสสำหรับการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งการจัดงาน Expo 2028 – Phuket Thailand ในเดือนมิถุนายน 2566 ระหว่างช่วงการประชุมสมัชชาใหญ่ ครั้งที่ 172 ที่กรุงปารีส โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสพร้อมให้การสนับสนุนไทยในประเด็นนี้

 

นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับ นายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

 

ส่วนความร่วมมือในกรอบอนุภูมิภาคและภูมิภาค นายกฯ ยืนยันว่า ไทยพร้อมสนับสนุนฝรั่งเศสในการมีส่วนร่วมและมีบทบาทที่สร้างสรรค์ ทั้งในกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง (ACMECS) อาเซียน – ฝรั่งเศส และอาเซียน – EU รวมถึงการขับเคลื่อนวาระสำคัญภายใต้ยุทธศาสตร์อินโด – แปซิฟิก และมุมมองอาเซียนต่ออินโด – แปซิฟิก 

 

ทั้งนี้ นายกฯ ขอให้ฝรั่งเศสสนับสนุนการรื้อฟื้นการเจรจา FTA ไทย–อียู ด้วยเช่นกัน ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสพร้อมสนับสนุนนโยบายระหว่างไทยกับ EU และพร้อมผลักดันการรื้อฟื้นการเจรจา FTA ไทย–อียู

 

นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับ นายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

 

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีมอบเอกสารแถลงการณ์แสดงเจตจำนงเข้าร่วมข้อริเริ่ม PREventing Zoonotic Disease Emergence (PREZODE) เพื่อสร้างเครือข่ายนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญในการศึกษาและป้องกันโดยโรคติดต่อระหว่างสัตว์กับคน