พอกันที ปีเสือกระบาก

30 ธ.ค. 2565 | 21:30 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...กาแฟขม

*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3848 ระหว่างวันที่ 29-31 ธ.ค. 2565 โดย...กาแฟขม 
 

*** เผลอแผล็บเดียวก็เข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของปี 2565 “ปีเสือกระบาก” ปีแห่งความยากลำบาก ทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ต้องยอมรับว่าปีนี้เราสะบักสะบอมกันถ้วนหน้า หลังจากโรคโควิดคร่าชีวิตพี่น้องเราไปหลายคนแล้ว ยังทุบทำลายอาชีพของเราไป ตกงาน สิ้นเนื้อประดาตัว ธุรกิจเดินไม่ได้ เราเจอสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้พลังงานเรามีปัญหาราคาแพง ส่งผลต่อเนื่องถึงทุกวันนี้และไปจนถึงปีหน้า  
 

เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญเงินเฟ้อสูงมีการขึ้นดอกเบี้ยปั่นป่วนไปทั่วโลก เราก็เผชิญปัญหาและผลพวงที่ตามมาเช่นเดียวกัน เราจึงสิ้นสุดปีเสือด้วยความลำบากและบางปัจจัยจะดำรงคงอยู่ไปจนถึงปีหน้าอย่างสัก 1-2 ไตรมาส ก็ต้องขอกราบอำนวยอวยพรให้ผู้อ่านทั้งหลาย แฟนฐานเศรษฐกิจ Thandigital ในทุกช่องทางก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ “ปีกระต่าย” อย่างเข้มแข็ง ต่อสู่ฟันฝ่าอุปสรรคต่อไปอย่างไม่หวั่นเกรง
 

*** ออกอาการควันออกหูกันเลยทีเดียว สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังได้รับการตั้งฉายาจากผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ว่าที่จริงเขาก็ตั้ง เขาก็ทำมากันในทุกๆ ปีในการตั้งฉายา เป็นการมองจากมุมสื่อ ซึ่งก็ทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนให้เห็นเงาตัวเอง ปีนี้เขาตั้งฉายารัฐบาล “หน้ากากคนดี” ส่วนเจ้าตัวนายกฯเขาให้ฉายา “แปดเปื้อน” ที่ว่า “หน้ากากคนดี” นั้น ภายใต้หน้ากากของรัฐบาล ที่สร้างภาพจำตลอดเวลาว่าเป็นคนดี นโยบายทุกอย่างทำเพื่อบ้านเมือง และประชาชน แต่กลับเกิดข้อกังขาว่ายังเดินตามเจตนารมณ์ที่ประกาศไว้ได้หรือไม่ ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงสงสัย ภายใต้หน้ากากที่ประกาศเป็นคนดีนั้น จริงหรือไม่? 
 

ส่วนแปดเปื้อนนั้นคนตั้งเขาอธิบาย ปมวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ความชอบธรรมในการครองเก้าอี้ สังคมเคลือบแคลงสงสัยกับคำพูดไม่ยึดติดอำนาจ ทุกอย่างทำเพื่อบ้านเมือง และประชาชน ไม่เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง ยิ่งเมื่อปัญหาใต้พรมถูกขุดคุ้ยขึ้น ใกล้ตัวเกินกว่าจะปัดความเกี่ยวโยงได้ แม้บางเรื่องพิสูจน์กันทางกฎหมายไม่ได้ แต่ก็ทำให้ถูกมองว่า ไม่ได้ใสสะอาด ผุดผ่องอีกต่อไป นายกฯ ถึงกับลั่น เป็นประเพณีบ้าๆ บอๆ กับเวลาที่เหลืออยู่ มองย้อนกลับไปแล้วแก้ไขไม่ให้เป็นอย่างที่เขามองไม่ดีกว่าหรือ 
 

*** อันนี้มาแรงและเร็ว พ่อค้านักธุรกิจที่ทำธุรกิจส่งออกสินค้าไปสหภาพยุโรปต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ สหภาพยุโรป (อียู) จะออกมาตรการ ปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) เดิม 5 กลุ่มสินค้า เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย และไฟฟ้า ให้เพิ่มเป็น 7 กลุ่มสินค้า รวมเอาไฮโดรเจนและสินค้าปลายนํ้าบางรายการ พวกน็อตและสกรูที่ทำจากเหล็กและเหล็กกล้า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม (indirect emissions) 
 


อย่างก๊าซเรือนกระจก ที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตสินค้า เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ให้เวลาปรับตัว 3 ปี แต่ระหว่างนี้ผู้นำเข้าสินค้า 7 กลุ่ม มีหน้าที่รายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้าที่ผลิต โดยเริ่มบังคับใช้มาตรการอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ซึ่งผู้นำเข้าจะต้องซื้อใบรับรอง CBAM ตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้า นัยยะของการออกกฎนี้มาเพื่อลดโลกร้อน เดินไปสู่ NET ZERO ฉนั้นผู้ผลิตสินค้าต้องระมัดระวัง จะขายไม่ได้ในตลาดอียูและมีแนวโน้มลามไปทุกตลาด จำต้องปรับตัวในการผลิตให้ดีตั้งแต่ต้นมือ
 

*** ว่าด้วยเรื่องการสื่อสารผ่าน ไลน์ที่มีการใช้ติดต่อกันมากในทุกแวดวง คราวนี้ไลน์เขาจะหยุดให้บริการ LINE IDOL ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2565 สมาคมผู้สื่อข่าวออนไลน์ ก็ออกแถลงการณ์ฟังว่า จะมีผลทำให้ประชาชนอาจไม่สะดวกในการรับข่าวสารจากสื่อหลักต่างๆ และเชื่อว่าการนำเสนอข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เป็นเรื่องสำคัญในฐานะสื่อมวลชน และยังคงยืนหยัดเป็นที่พึ่งของประชาชน เอาง่ายๆ ว่าไลน์ตัดท่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชนเสียแล้ว ปิดกั้นทำไม ใช่มีสื่อของตัวเองในการนำเสนอแทนหรือไม่ แล้วแพลตฟอร์มนี้เป็นสื่อหรือไม่ ก็ต้องถามอีกว่าเจ้าของผู้ถือหุ้นไลน์เป็นต่างด้าวหรือไม่ แล้วทำธุรกิจต้องห้ามตามกฎหมายหรือไม่ มีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ คำถามยาวเลยทีนี้ 
 

*** ปิดท้ายที่... อรรถพล ตั้งคารวคุณ CFO หรือ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ของ DPAINT รายงานการซื้อหุ้น DPAINT เพิ่มอีก 3,500,000 หุ้น ที่ราคา 9.75 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งหมด 34,125,000 บาท เพิ่มการถือหุ้นเป็น 20,500,000 หุ้น ทำให้ครอบครัวตั้ง “คารวคุณ” ถือหุ้น DPAINT เพิ่มเป็น 52% หลังจากเมื่อเดือนก่อน 3 กองทุนขนาดใหญ่ระดับนานาชาติ ได้เข้ามาถือหุ้น DPAINT รวมกันถึง 15% ซึ่งเป็นแสดงถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของ DPAINT อย่างชัดเจน ...แหม ทั้งเหล่ากองทุนใหญ่ และผู้บริหารมั่นใจขนาดนี้ DPAINT ต้องมีแผนเติบโตแรงๆ ให้ผู้ถือหุ้นได้ปลื้มใจอย่างแน่นอน