5. ขอคำแนะนำจากบุคคลภายนอก: การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก เช่น ที่ปรึกษาทางธุรกิจหรือนักกฎหมาย จะสามารถ ให้มุมมองใหม่ๆ และช่วยให้ซีอีโอตัดสินใจได้อย่างรอบคอบมากขึ้น
6. สนับสนุนการเติบโตส่วนบุคคลและการเติบโตในอาชีพ: การส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวที่มีส่วนร่วมในธุรกิจ มีโอกาสเติบโตทั้งในด้านส่วนบุคคลและในอาชีพ จะช่วยลดความขัดแย้งและปรับปรุงการตัดสินใจโดยรวมให้ดีขึ้น
ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้ซีอีโอธุรกิจครอบครัว สามารถรับมือกับความท้าทาย และทำให้ทั้งครอบครัวและธุรกิจประสบความสำเร็จได้
อย่างไรก็ตาม วิธีการเหล่านี้อาจไม่ได้ผลกับทุกธุรกิจ และซีอีโออาจต้องปรับเปลี่ยนแนวทางตามการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจด้วยก้าวสู่การเป็นซีอีโอ
การจะเป็นซีอีโอได้นั้นต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน โดยซีอีโอส่วนใหญ่มักต้องผ่านกระบวนการดังต่อไปนี้
1. การได้รับการศึกษาที่เหมาะสม: การศึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจถือเป็นทรัพย์สินที่ดีที่สุดสำหรับมืออาชีพทุกคน บนเส้นทางการเป็นซีอีโอการศึกษาที่เกี่ยวกับธุรกิจถือว่าเหมาะสม โดยปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น บริหารธุรกิจ การเงิน การจัดการ เป็นต้น มักจำเป็นสำหรับตำแหน่งซีอีโอ นอกจากนี้ปริญญาโท เช่น MBA ก็เป็นประโยชน์ได้เช่นกัน
2. สะสมประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง: ตามข้อมูลจาก Fortune.com อายุเฉลี่ยของซีอีโออยู่ที่ประมาณ 57 ปี และผู้ที่ต้องการเป็นซีอีโอต้องมีประสบการณ์หลายปีในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงภายในบริษัทหรืออุตสาหกรรม ดังนั้นการมีประสบการณ์ที่ครอบคลุมในด้านต่างๆ เช่น การเงิน การตลาด การปฏิบัติการ และความเป็นผู้นำ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการก้าวขึ้นเป็นซีอีโอ
3.พัฒนาชุดทักษะที่หลากหลาย: ซีอีโอต้องมีทักษะที่หลากหลาย รวมถึงความสามารถในการเป็นผู้นำและการจัดการที่ดี ทักษะการสื่อสารและมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม และความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับอุตสาหกรรมและตลาดของตน
4. การสร้างเครือข่าย: การสร้างความสัมพันธ์ทางวิชาชีพกับคนในอุตสาหกรรมเดียวกัน อาจมีความสำคัญต่อความสำเร็จในฐานะซีอีโอ ซึ่งรวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมและการประชุมในอุตสาหกรรม การเข้าร่วมองค์กรวิชาชีพ และสร้างความสัมพันธ์กับที่ปรึกษาและผู้นำคนอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
5. การเป็นคนริเริ่ม: ริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆและรับผิดชอบงานเพิ่มเติมในบทบาทปัจจุบัน อาสาเป็นผู้นำในองค์กรที่ตนเป็นสมาชิก และมองหาโอกาสในการเป็นผู้นำโครงการหรือทีม
6. ปรับตัวและเปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลง: ซีอีโอต้องสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาด เศรษฐกิจ และบริษัทได้ และเต็มใจที่จะตัดสินใจในเรื่องที่ยากลำบาก
7. ยืนหยัดและเข้มแข็ง: เส้นทางสู่การเป็นซีอีโออาจยาวนานและท้าทาย ต้องใช้ความพากเพียร ความพยายาม และความสามารถในการเอาชนะอุปสรรค
8. การศึกษาสำหรับผู้บริหาร: ผู้ที่ต้องการเป็นซีอีโอมักจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโททางธุรกิจ (MBA) และได้รับตำแหน่งที่ดีในบริษัท แต่ก่อนที่จะสามารถสมัครตำแหน่งนี้ได้ ต้องทำงานมาเป็นระยะเวลาพอสมควรเสียก่อน การศึกษาสำหรับผู้บริหารจะช่วยให้เพิ่มทักษะและความรู้ที่จะช่วยให้ก้าวไปสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุดได้อย่างมั่นใจ และจะช่วยให้มีวิธีที่ดีที่สุดในการประยุกต์ใช้ทักษะที่ได้เรียนรู้มาตลอดหลายปี
ดังนั้น การเป็นซีอีโอธุรกิจครอบครัวแม้จะมีความท้าทายมากมาย แต่ก็อาจเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าได้เช่นกัน เพราะไม่เพียงมีโอกาสขับเคลื่อนความสำเร็จของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษามรดกของครอบครัวอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้ประสบความสำเร็จในบทบาทนี้ ซีอีโอต้องสามารถสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของธุรกิจและครอบครัว สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับทั้งสองฝ่าย และมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จในระยะยาวของบริษัท
ที่มา: Northwest Executive Education. April 24, 2024. CEO of a Family-Owned Business.Available:https://northwest.education/insights/careers/ceo-of-a-family-owned-business/