ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม ที่พบว่า ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.7% (YoY) ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 1.4% (YoY)
โดยปัจจัยหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว ช่วยสนับสนุนให้ภาคการบริการขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลดลง สอดรับกับข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ระบุว่า ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เศรษฐกิจไทยปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่เพิ่มขึ้นเป็นแรงส่งสำคัญ
หากมองกลับไปในครึ่งหลังของปี 2565 ที่การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย และนานาประเทศรวมถึงไทยเริ่มทยอยปลดล็อกมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศตามนโยบายรัฐบาล ทุกฝ่ายต่างคาดหวังว่า “การท่องเที่ยว” จะเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย จึงมุ่งเทนํ้าหนักจัดสรรนโยบายหนุนเต็มรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็น การขยายระยะเวลาพำนักวีซ่าในไทย ทั้งวีซ่าท่องเที่ยวจากไม่เกิน 30 วันเพิ่มเป็นไม่เกิน 45 วัน และ Visa on Arrival จากเดิมไม่เกิน 15 วันเพิ่มเป็นไม่เกิน 30 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65-31 มี.ค.66 และมีแนวโน้มที่จะขยายออกไปอีก
ขณะที่การบินไทย ไทยสมายล์ และ VFS Global ลงนามความร่วมมือในโครงการ e-Visa On Arrival (e-VOA) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่ถือหนังสือเดินทางจีน อินเดีย ไต้หวัน และอีก 14 ประเทศที่ต้องการเดินทางเข้าไทยผ่าน e-VOA เรียกว่า on top ความสะดวก
เป้าหมายสำคัญคือ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาให้ได้ 40 ล้านคน (เท่ากับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19) และมีรายได้เข้าประเทศกว่า 1.9 ล้านล้านบาท (ร้อยละ 11 ต่อ GDP) แต่การจะได้มาตามเป้าหมายนี้ ยังคงต้องใช้เวลา ซึ่งหากพิจารณาตามคาดการณ์ของ ธปท. ที่ประเมินว่า ในปี 2566 ไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28 ล้านคน และเพิ่มเป็น 35 ล้านคน ในปี 2567 ดังนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับไปเทียบเท่ากับช่วงปี 2562 (ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19) จะเห็นได้ในปี 2568
แต่ทั้งหมดทั้งมวลปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงคือ การเปิดประเทศของจีนที่เร็วกว่าคาด และความเร็วในการฟื้นตัว (speed of recovery) ของนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมสูงกว่าที่ประเมินไว้ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเบื้องต้นในเดือนมีนาคม 2566 (ไม่รวมจีน) ฟื้นตัว 78% เทียบกับปี 2562 เป็นการฟื้นตัวที่สูงกว่าคาดเกือบทุกสัญชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว รัสเซีย เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย รวมถึง อินเดียที่กลับมาฟื้นตัวดี
ขณะที่ภาพรวมในช่วง 5 เดือนนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังสดใสและเติบโตเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ และเชื่อว่าครึ่งปีหลังท่องเที่ยวไทยจะยังสดใส และเป็นไปตามเป้าหมายที่ททท. ประเมินไว้ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 25-30 ล้านคนแน่นอน
แต่จะให้ดี “รัฐบาลใหม่” ที่ก้าวเข้ามา ต้องเร่งสานต่อ เพิ่มสปีด ทั้งผลัก ทั้งดัน ให้ท่องเที่ยวไทยยืนหนึ่ง ในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก อย่าว่างเว้น หรือ สุญญากาศนานเกินไป เพราะชั่วโมงนี้การท่องเที่ยวของประเทศเพื่อนบ้านก็ออกตัวแรงไม่แพ้กัน...