+++ “นิวไฮ” อีกแล้ว สำหรับยอดผู้เสียชีวิตสังเวย “โควิด-19” เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา โดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตว่ามีจำนวน 312 คน ทำให้นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโรค เมื่อต้นปี 2563 มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 8,285 คน ขณะที่ผู้ติดเชื้อใหม่ เพิ่มขึ้น 20,515 ราย แบ่งออกเป็นติดเชื้อใหม่ในประเทศ 20,267 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ 248 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย.- 18 ส.ค.64 มีจำนวน 940,094 ราย เสียชีวิตสะสม 8,191 คน ส่วนผู้ติดเชื้อสะสมนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาด มี 968,957 ราย ขณะที่ยอดผู้หายป่วยจากโควิด-19 ณ วันที่ 18 ส.ค.64 มี 22,682 ราย ผู้หายป่วยสะสม 725,693 ราย หายป่วยสะสมนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาจำนวน 753,338 ราย ผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการรักษา 207,553 ราย
+++ วันเดียวกัน บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว ตอนหนึ่งพูดถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทยว่า หลังจากเริ่มมาตรการ “ล็อกดาวน์” มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.ค.แม้ว่าจะมียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันอยู่มากกว่า 20,000 คน แต่เริ่มจะเห็นสัญญาณของการชะลอตัว และมีสัญญาณของผู้ป่วยที่หายดีมากกว่าผู้ติดเชื้อรายวัน
+++ “แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ตัวเลขของผู้เสียชีวิต ที่แม้ว่าเราจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตที่ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของทั่วโลก แต่ก็ยังมีบางวันที่ยังขึ้นสูงอยู่ และเราทุกคนไม่อยากให้มีใครเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้วิเคราะห์ว่า หากเราสามารถที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของการล็อกดาวน์ได้มากกว่านี้ ก็จะสามารถลดยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตได้มากขึ้น ที่ประชุม ศบค.จึงมีมติให้ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการออกไปจนถึงสิ้นเดือน ส.ค. ซึ่งหากเราสามารถควบคุมการล็อกดาวน์ได้ดีขึ้นกว่านี้ อาจจะสามารถผ่านจุดสูงสุดของยอดการติดเชื้อได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องได้ในต้นเดือน ก.ย. ซึ่งจะทำให้เราสามารถปรับมาตรการการควบคุมและผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมบางอย่างได้” นายกฯ ระบุ
+++ จับสัญญาณจากที่ “นายกฯ” พูด ก็อยากให้เป็นจริงที่ว่า “อาจจะสามารถผ่านจุดสูงสุดของยอดการติดเชื้อได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องได้ในต้นเดือน ก.ย.” เพราะ “ศบค.”ก็ได้ดำเนินมาตรการ “ล็อกดาวน์” อย่างเต็มที่แล้ว ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือกับภาครัฐเป็นอย่างดี แต่จะเป็นจริงได้หรือไม่นั้น นอกจากมาตรการ “ล็อกดาวน์” แล้ว “วัคซีนโควิด” จะต้องเร่งฉีดให้กับประชาชนเร็ว และได้ปริมาณมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะ “วัคซีนโควิด” จะเป็นเครื่องป้องกันอย่างดีไม่ให้ไวรัสร้ายแพร่ระบาดสู่คนไทยอย่างที่เป็นอยู่ แต่ดูการบริหารจัดหาวัคซีนของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุขแล้ว บอกได้เลยว่า “ผิดพลาด” จนทำให้เชื้อโรคแพร่ระบาดกระจายไปทั่วอยู่แบบนี้
+++ รอไม่ไหวแล้ว ...ในที่สุด “สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ก็ประกาศใช้ข้อบังคับเกี่ยวกับการนำเข้ายา วัคซีน และเวชภัณฑ์ เพื่อรับมือการระบาดของไวรัสโควิด-19 เดินตาม “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ “รพ.ธรรมศาสตร์” สามารถจัดหา จัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และ วัคซีนโควิด ด้วยตัวเองได้ โดยรพ.ธรรมศาสตร์เตรียมจัดหาอุปกรณ์ตรวจเชื้อโควิดด้วยตนเอง หรือ ATK ที่มีประสิทธิภาพ ชุดละ 30-50 บาท มาจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาที่สมเหตุสมผล พร้อมทั้งเตรียมจับมือกับกลุ่มโรงเรียนแพทย์ ภาคเอกชน จัดหาวัคซีนสำหรับกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับประชาชน ซึ่งคาดว่าจะมีได้ในปีหน้า โดยจะเป็นวัคซีนที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่เคยนำเข้ามาในประเทศไทย แต่มีประสิทธิภาพประสิทธิผลในการป้องกันโรค
+++ ความจริงนอกจาก “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” และ “สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” แล้ว มหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่มีโรงพยาบาลของตัวเอง ก็น่าจะเดินตาม 2 องค์กรดังกล่าวข้างต้น เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มในการช่วยเหลือประชาชน เพื่อต่อสู้กับ “สงครามโรค” เพราะหากทุกแห่งต่างออกมายื่นมือช่วยเหลือประชาชน ก็จะสามารถช่วยหยุดยั้งและรับมือกับโรคนี้ได้อีกทางหนึ่ง
+++ ผู้บริหารหญิงมากความสามารถ หลุยส์ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TRITN) และ บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (GLOCON) นอกจากจะขยันเป็นเจ้าแม่โปรเจคแล้ว ยังเฉียบคมด้านงานบริหาร จนนำพาให้ 2 บริษัทใหญ่ มีผลงานที่น่าชื่นชมออกมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้ารับรางวัล “CEO Women Thai-Asean Awards 2021” ซึ่งจัดขึ้นโดยสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (สว.นท) มูลนิธิสร้างสรรค์สังคมไทย และ เครือข่ายองค์กรภาคภี ที่มอบให้เพื่อเชิดชูเกียรติให้แก่นักบริหาร-นักธุรกิจหญิงไทย-อาเซียน ...ถือเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งนัก
+++ ปิดท้ายกันที่ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD จัดสัมมนาใหญ่ ในเวที Recharging Asia Trade and Development Regional Forum 2021 ระหว่างวันที่ 24-26 ส.ค.2564 นี้ โดยในวันที่ 26 ส.ค. ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังก์ถัด อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก จะปาฐกถาพิเศษในงาน …ผู้สนใจเข้าร่วมดูรายละเอียดได้ที่ www.itd.or.th หรือโทร. 086-588-9759